วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Samsung Galaxy S7 และ S7 edge ยอดเรือธงรุ่นใหม่เปิดตัวแล้ว

Samsung Galaxy S7 และ S7 edge ยอดเรือธงรุ่นใหม่เปิดตัวแล้ว! กับกล้อง Dual Pixel ขั้นโปร, จอ 2K Super AMOLED, ชิปเซ็ต Exynos 8890 ตัวท็อป และ RAM 4GB บนตัวเครื่องกันน้ำดีไซน์ 3D Glass สุดเฉียบ!


หลังจากมีข้อมูลหลุดออกมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรตั้งแต่ช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ล่าสุด Samsung ก็ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในชื่อ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วภายในงาน Mobile World Congress 2016 ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยSamsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge ได้รับการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติตัวเครื่อง หรือฟีเจอร์สุดเด็ดที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ก็มาพร้อมกับดีไซน์ตัวเครื่องสวยหรูพรีเมียมเช่นเคย และคุณสมบัติตัวเครื่องที่อัปเกรดให้ดีมากยิ่งขึ้น



Samsung Galaxy S7



- ตัวเครื่องมีขนาด 142.4x69.6x7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 152 กรัม ตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก 3D Glass
- จอแสดงผลแบบ 2K Quad HD Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว กระจกหน้าจอแบบ 2.5D พร้อมฟีเจอร์ Always-On Display
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Samsung Exynos 8890
- จีพียู (GPU) Mali-T880
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4 ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB และ 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 200GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, MU-MIMO, Bluetooth 4.2, USB 2.0 และ NFC
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh พร้อมระบบ Fast Charging และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย TouchWiz UI

Samsung Galaxy S7 Edge



- ตัวเครื่องมีขนาด 150.9x72.6x7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 157 กรัม ตัวเครื่องด้านหลังเป็นกระจก 3D Glass
- จอแสดงผลแบบ 2K Quad HD Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว กระจกหน้าจอขอบโค้ง (Dual-Edge Curved Glass) พร้อมฟีเจอร์ Always-On Display
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Samsung Exynos 8890
- จีพียู (GPU) Mali-T880
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4 ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32GB และ 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 200GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
- กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, MU-MIMO, Bluetooth 4.2, USB 2.0 และ NFC
- รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 4G LTE
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh พร้อมระบบ Fast Charging และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging)
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย TouchWiz UI

Always-On Display


ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, อีเมล, โทรศัพท์ และอื่นๆ รวมถึงวันที่ และเวลาได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งฟีเจอร์นี้จะใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่เป็นการทำให้สูญเสียพลังงานแบตเตอรี่มากแต่อย่างใด

ฟีเจอร์ป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68


หลังจากที่ Samsung เคยใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามาในอดีตเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S5 แต่แล้วก็ถูกถอดออกไปในรุ่น Galaxy S6 แต่ล่าสุด Galaxy S7 ก็กลับมาพร้อมฟีเจอร์นี้อีกครั้ง และได้รับการอัปเกรดให้กันน้ำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยแผ่นยางป้องกันในทุกช่องว่างบนตัวเครื่อง ซึ่งมั่นใจได้ว่าแม้ฝนจะตกลงมาขณะที่กำลังใช้งาน Galaxy S7 อยู่ สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ก็จะไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด

Hybrid Slot


เครื่อง Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีช่องแบบ Hybrid Slot ซึ่งรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 200GB พร้อมรองรับการใช้งานสองซิมการ์ด (nanoSIM)

Fast Charging


เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันต่างมาพร้อมกับฟีเจอร์ Fast Charging กันเกือบทุกรุ่น ซึ่ง Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge ก็ได้พัฒนาฟีเจอร์ดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย Galaxy S7 ที่ใช้งานแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 90 นาที (1 ชั่วโมง 30 นาที) เท่านั้น ขณะที่ Galaxy S7 Edge ที่ใช้งานแบตเตอรี่ความจุ 3600 mAh ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 100 นาที (1 ชั่วโมง 40 นาที)

Dual Pixels Camera


ฟีเจอร์ Dual Pixels Camera ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บทุกภาพตรงหน้าไว้ได้รวดเร็วกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยีการโฟกัสภาพที่คำนวณข้อมูลจากเม็ดพิกเซลแบบคู่บนเซ็นเซอร์รับภาพ ซึ่งทำให้กล้องดิจิทัลของ Galaxy S7 สามารถโฟกัสวัตถุ หรือตัวแบบได้รวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.7 ก็ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี

สรุปราคา และวันวางจำหน่ายของ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge


สำหรับ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge จะวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือสีดำ (Black Onix), สีทอง (Gold Platinum) และสีขาว (White Pearl) แต่สีเงิน (Silver Titanium) ยังไม่มีข้อมูลว่าจะนำมาวางจำหน่ายในภายหลังด้วยหรือไม่ ส่วนราคาเปิดตัว และวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยยังไม่เปิดเผยในขณะนี้ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าทาง Samsung (ประเทศไทย) จะประกาศราคา และวันวางจำหน่ายของ Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 Edge อย่างเป็นทางการในช่วงใด หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม ทางทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ทุกๆ ท่านทราบในทันที

ที่มา : http://mobilebookz.sogoodweb.com/Article/Detail/46899/

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง

News update