Siemens ถือเป็นแบรนด์มือถือระดับตำนานแบรนด์นึงที่กลับมาเกิดใหม่ในนาม Gigaset (Gigaset คือบริษัทที่ซื้อส่วนของธุรกิจโทรศัพท์มือถือมาจาก Siemens ) ล่าสุด Gigaset ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ 3 รุ่น ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ที่เรียกได้ว่ามีสเปคและการออกแบบที่น่าสนใจไม่น้อย (ส่วนตัวผมมองว่ามีส่วนผสมของ iphone และ S6 อยู่แต่ก็ถือว่าลงตัวดี) ได้แก่ Gigaset ME, Gigaset ME Pure และGigaset ME Pro โดยทั้ง 3 รุ่นนี้ผลิตจากวัสดุที่มีส่วนผสมของโลหะ และอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ใช้หน้าจอที่มีมุมมองกว้างถึง 178 องศาและสามารถใช้จอสัมผัสได้แม้ใส่ถุงมือ มาดูข้อมูลเสปคโดยสรุปกันครับ
สเปค Gigaset ME โดยสรุป
- หน้าจอกระจก Gorilla Glass 3 ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FULL HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ตัวเครื่องแสตนเลสและอลูมีเนียมเบา
- หน่วยประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 810 ความเร็ว 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 430
- หน่วยความจำภายนอก RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
- กล้องด้านหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องด้านหน้า 8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.0 สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้อย่างดี มีเทคโนโลยีโฟกัสภาพที่ทำให้สามารถถ่ายรูป Macro ได้ดี
- แบตเตอรี่ 3000 mAh พร้อมระบบ QuickCharge
- ระบบสแกนนิ้วมือพร้อม in cell touch สามารถใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ
- รองรับการใช้ 2 ซิมการ์ด และระบบ 4G
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Lollipop 5.1 ครอบด้วย UI แบบฉบับของ Gigaset
- หน้าจอกระจก Gorilla Glass 3 ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FULL HD 1080p (1080x1920 พิกเซล)
- ตัวเครื่องแสตนเลสและอลูมีเนียมเบา
- หน่วยประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 810 ความเร็ว 1.8 GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 430
- หน่วยความจำภายนอก RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
- กล้องด้านหลัง 16 ล้านพิกเซล กล้องด้านหน้า 8 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/2.0 สามารถถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้อย่างดี มีเทคโนโลยีโฟกัสภาพที่ทำให้สามารถถ่ายรูป Macro ได้ดี
- แบตเตอรี่ 3000 mAh พร้อมระบบ QuickCharge
- ระบบสแกนนิ้วมือพร้อม in cell touch สามารถใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ
- รองรับการใช้ 2 ซิมการ์ด และระบบ 4G
- ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Lollipop 5.1 ครอบด้วย UI แบบฉบับของ Gigaset
สำหรับมือถืออีก 2 รุ่นที่จะออกมาหลังจากนี้จะมีอีก 2 รุ่นคือ Gigaset ME Pure และ Gigaset ME PRO ซึ่งจะเป็นรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียม ซึ่งจะแตกต่างกันในเรื่องของความละเอียดกล้องที่น้อยลงและหน่วยความจำที่น้อยกว่ารุ่น Gigaset ME โดย Gigaset ME Pure จะมีความละเอียดกล้องเพียง 13 ล้าน และมีหน่วยความจำ RAM 2GB หน่วยความจำภายใน ROM 16 GB ในขณะที่ Gigaset ME PRO จะมีความละเอียดกล้องเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้าน และมีหน่วยความจำ RAM 5GB หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วและแบตเตอรี 4,000 mAh
Gigaset ME มีทั้งหมด 2 สี คือ ขาวและ ดำ วางจำหน่ายในประเทศแถบยุโรป เช่น เยอรมัน, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, สเปน, อิตาลี, โปแลนด์ และตุรกี โดยราคาอยู่ที่ 469 ยูโร หรือประมาณ 18,900 บาท ส่วนอีก 2 รุ่นนั้นมีกำหนดการวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้
สำหรับราคาของอีก 2 รุ่น Gigaset ME PRO จะอยู่ที่ 22,100 บาท (549 ยูโร) Gigaset ME Pure ราคา 14,000 (349 ยูโร)
เรียกได้ว่าห่างหายไปนานสำหรับมือถือสัญชาติเยอรมันเมื่อเทียบสเปคกับราคาวัสดุที่ใช้ต้องเรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยครับสำหรับมือถือสันชาติเยอรมันรุ่นนี้
สำหรับราคาของอีก 2 รุ่น Gigaset ME PRO จะอยู่ที่ 22,100 บาท (549 ยูโร) Gigaset ME Pure ราคา 14,000 (349 ยูโร)
เรียกได้ว่าห่างหายไปนานสำหรับมือถือสัญชาติเยอรมันเมื่อเทียบสเปคกับราคาวัสดุที่ใช้ต้องเรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยครับสำหรับมือถือสันชาติเยอรมันรุ่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง