วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Android M : เดากันถูกมั๊ย? Android M (Android 6.0) ได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้วว่า Marshmallow

หลังจากที่ทาง กูเกิล ได้เปิดตัว Android M หรือ Android 6.0 ในงาน Google I/O เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีใครทราบว่า โค้ดเนมอย่างเป็นทางการของเวอร์ชันนี้ คืออะไรกันแน่ ล่าสุด ทาง กูเกิล ได้ออกมาเฉลยแล้วว่า โค้ดเนมของ Android M นั้นก็คือ Marshmallow พร้อมกันนี้ ได้นำตัว Mascot ไปตั้งไว้ที่ตึก Android HQ อย่างเป็นทางการอีกด้วย
สำหรับความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของ Android 6.0 Marshmallow นี้ก็คือ เน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเป็นหลัก ใช้ RAM น้อยลง นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนา ระบบสแกนลายนิ้วมือ เข้ามาในระบบปฏิบัติการ และยังอนุญาตให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน สามารถนำระบบสแกนลายนิ้วมือ มาใช้งานกับตัวแอปฯ ได้ รวมไปถึงคุณสมบัติในการรองรับ USB Type C และอื่นๆ อีกมากมาย
ปัจจุบัน ระบบปฏิบัติการ Android มีมาแล้วทั้งหมด 11 เวอร์ชัน ซึ่งมีโค้ดเนม เป็นชื่อขนมและของกินทั้งหมด ได้แก่
  • Android 1.5 Cupcake
  • Android 1.6 Donut
  • Android 2.0 Eclair
  • Android 2.2 Froyo
  • Android 2.3 Gingerbread
  • Android 3.0 Honeycomb
  • Android 4.0 Ice Cream Sandwich
  • Android 4.1 - 4.3 Jelly Bean
  • Android 4.4 KitKat
  • Android 5.0 - 5.1 Lollipop
  • Android 6.0 Marshmallow

สมาร์ทโฟนแบรนด์ใด และรุ่นใดบ้าง ที่จะได้อัปเดตเป็น Android M มาดูกัน
หลังจากที่ กูเกิลได้เปิดตัว ระบบปฏิบัติการ Android M หรือ Android เวอร์ชัน 6.0 อย่างเป็นทางการในงาน Google I/O 2015 เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อีกทั้งยังเผยถึงฟีเจอร์ใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขอ App Permission ระบบการขออนุญาตใช้ฟังก์ชันต่างๆ บนมือถือที่มีความปลอดภัยมากกว่าเดิม, Google Now ที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิม, ระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่สามารถนำมาใช้กับแอปพลิเคชันได้, Doze ระบบประหยัดพลังงานแบบใหม่ ที่ทำให้แบตฯ อึดมากกว่าเดิม และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ผู้ใช้ มือถือแอนดรอยด์ ข้องใจและอยากจะทราบคำตอบมากที่สุด นั่นก็คือ สมาร์ทโฟนรุ่นใดบ้าง ที่จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M ซึ่งในวันนี้ ทีมงาน techmoblog มีข้อมูลรายชื่อรุ่น ที่คาดว่าจะได้อัปเดตเป็น Android M มาฝากกัน มาดูกันดีกว่า มีรุ่นใดกันบ้าง
Nexus
คงจะเป็นเรื่องที่คาดเดากันได้อยู่แล้วอย่างแน่นอน เมื่อสมาร์ทโฟนจาก Nexus จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนที่ กูเกิล และผู้ผลิตมือถือ ร่วมกันพัฒนานั่นเอง อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับนักพัฒนาโดยตรง จึงไม่ต้องแปลกใจนักสำหรับสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus ที่จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M ก่อนใคร อีกทั้ง กูเกิล ยังเปิดให้ดาวน์โหลด Android M สำหรับนักพัฒนาแล้ว ทั้งบน Nexus 5, Nexus 6, Nexus 9 และ Nexus Player
Samsung
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการจาก ซัมซุง ว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใดจะได้รับการอัปเดตเป็น Android M แต่สำหรับรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S6, Samsung Galaxy S6 edge, Samsung Galaxy Note 4 และ Samsung Galaxy Note Edge มีโอกาสสูงมาก ที่จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M แต่ก็มีคาดการณ์ว่า Samsung Galaxy S5 อาจจะไม่ได้รับการอัปเดตเป็น Android M เนื่องจากราคาที่ตกลงไปมากและไม่ได้รับความนิยมนั่นเอง
HTC
เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์เดียวที่ในขณะนี้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า HTC One M9 และ HTC One M9+ จะได้ไปต่อกับ Android M อย่างแน่นอน ซึ่งข้อมูลดังกล่าว มาจาก Jeff Gordon ผู้บริหารระดับสูงจาก HTC ที่ได้โพสผ่านทาง Twitter นั่นเอง ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ เอชทีซี นั้นก็ยังไม่มีการออกมายืนยันอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า HTC One M8 และ HTC One E9 จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M เช่นเดียวกัน
Motorola
สำหรับ โมโตโรล่า แล้ว ถ้าไม่นับ Nexus 6 รายชื่อสมาร์ทโฟนที่ติดโผว่าจะได้รับการอัปเดตเป็น Android M เป็นรุ่นแรกคือ Moto Turbo ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดของโมโตโรล่า ต่อมาคงเป็น Moto X และMoto G ก็จะได้รับการอัปเดตเช่นกัน ส่วน Moto E (2014) อาจจะไม่ได้ไปต่อ เพราะข้อจำกัดในด้านฮาร์ดแวร์นั่นเอง
LG
สมาร์ทโฟนจาก แอลจี ที่คาดว่าจะได้รับการอัปเดตเป็น Android M นั่น ต้องมีรุ่นเรือธงอย่าง LG G4 ติดโผอยู่อย่างแน่นอน ส่วนรุ่นอื่นๆ นั้นน่าจะเป็น LG G3 และ LG G Flex 2 ก็มีรายชื่อติดโผอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก แอลจี ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดจะได้ไปต่อบ้าง แต่คาดว่า ไม่นานเกินรอ คงจะได้ทราบกันอย่างแน่นอน
ASUS
ถึงแม้ว่า เอซุส จะเคยเลื่อนการอัปเดต Lollipop ให้กับ ZenFone 5 แต่สำหรับรุ่นเรือธงอย่าง ASUS ZenFone 2 (ZE551ML) ไม่น่าจะพลาดการอัปเดตเป็น Android M ส่วนโมเดลรุ่นน้องอย่าง ZE550MLและ ZE500CL ก็มีโอกาสได้อัปเดตเช่นกัน
Sony
สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจาก โซนี่ รุ่นที่ดูมีภาษีที่จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M คงจะหนีไม่พ้น Sony Xperia Z4, Sony Xperia Z4 Tablet, Sony Xperia Z3+, Sony Xperia Z3+ Dual, Sony Xperia Z3, Sony Xperia Z3 Compact และ Sony Xperia Z3 Compact Tablet คาดว่า โซนี่ จะเริ่มปล่อยอัปเดต Android M ให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงประมาณไตรมาสที่สองของปี 2016
Huawei
Huawei แบรนด์ดังจากแดนมังกร ก็มีรายชื่อที่ติดอยู่ในโผนี้เช่นเดียวกัน คาดว่าสมาร์ทโฟนที่จะได้รับการอัปเดตเป็น Android M คือ Huawei P8 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ออกมาช่วงเมื่อต้นปีที่ผ่านมาไม่นาน
สำหรับรายชื่อสมาร์ทโฟนข้างต้นนี้ ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใดว่า จะได้อัปเดตเป็น Android M หรือไม่ยกเว้น เอชทีซี เพียงแบรนด์เดียว ที่มีการยืนยันแน่นอนแล้วว่า HTC One M9 และ HTC One M9+ จะได้ไปต่ออย่างแน่นอน ส่วน Nexus 5, Nexus 6, Nexus 9 และ Nexus player ก็มีการปล่อยดาวน์โหลด Android M สำหรับนักพัฒนาแล้ว แต่สำหรับเวอร์ชันเต็มคงต้องรอกันอีกสักหน่อย
ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ที่มีกำหนดการเปิดตัวในเร็วๆ นี้นั้น คงจะไม่เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ ต่างพัฒนาฮาร์ดแวร์ให้รองรับระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับล่าง คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะได้อัปเดตด้วยหรือไม่ -whatsupgeek.com

Android M เปิดตัวแล้ว! สรุปฟีเจอร์เด็ดบน Android M มีอะไรบ้าง มาดูกัน!
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Android M ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ในงาน Google I/O เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยเวอร์ชันนี้ จะเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพด้านการใช้งานเป็นหลัก และแก้ปัญหาบั๊ก ซึ่งจะไม่เน้นเรื่องลูกเล่น หรือฟีเจอร์ใหม่ๆ มากเท่าที่ควร มาดูกันดีกว่าว่า Android M จะมีอะไรใหม่ๆ กันบ้าง
App Permission
Permission หรือระบบการขออนุญาตใช้ฟังก์ชันต่างๆ บนมือถือ โดยถ้าเป็นเวอร์ชันเดิม เมื่อทำการติดตั้งแอปฯ จะมีการขอ Permission ตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งผู้ใช้บางราย จะไม่ทราบว่า มีการขอ Permission ไปเมื่อใด อีกทั้งแทบจะไม่ได้อ่านเลยว่า Permission ที่ขอไปนั้น มีอะไรบ้าง แต่บน Android M จะเปลี่ยนการขอ Permission แบบใหม่ ด้วยการขออนุญาตตอนเรียกใช้งานครั้งแรก แทนการขออนุญาตตั้งแต่ตอนติดตั้งแทน ยกตัวอย่างเช่น เปิดใช้งาน WhatsApp ครั้งแรก จะมีการขอสิทธิ์ใช้งาน Voice Message เป็นต้น
โดยข้อดีของการขออนุญาตแบบนี้ ก็คือ สมมติว่า กำลังเปิดใช้งานแอปฯ นึง แล้วมีการขอสิทธิ์ใช้งาน GPS ถ้าเราไม่ต้องการ ก็กด cancel ทิ้งไปได้เลย แต่ถ้าหากเป็นเวอร์ชันเดิม ซึ่งเราจะไม่มีทางทราบได้เลยว่า มีการขอใช้งาน GPS ไปแล้ว และแอปฯ ดังกล่าว ก็ทำการติดตามพิกัดของเราไปเรื่อยๆ โดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัวเลย โดยฟีเจอร์นี้ ถือว่า ปลอดภัยต่อเรื่องข้อมูลส่วนตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งบน iOS ก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกันครับ
Google Now ฉลาดขึ้นกว่าเดิม กับฟีเจอร์ใหม่ Now on Tap
Google Now ผู้ช่วยส่วนตัว ได้เพิ่มความสามารถใหม่ ที่มีชื่อว่า Now on Tap ที่สามารถประเมินได้ทันทีว่า เราต้องการอะไร ยกตัวอย่างเช่น กำลังอ่านอีเมลที่เพื่อนชวนไปดูภาพยนตร์ Tomorrowland และเราต้องการอยากจะรู้ว่า Tomorrowland เป็นภาพยนตร์แนวไหน มีเรื่องย่ออย่างไร ให้กดปุ่ม Home ค้างเพื่อเปิดใช้งาน Google Now กับฟีเจอร์ Now on Tap ก็จะมีข้อมูลของ Tomorrowland ขึ้นมาให้อ่านทันที โดยไม่ต้องไปค้นหารายละเอียดเองใน Google
นอกจากเรื่องภาพยนตร์แล้ว ยังสามารถใช้งาน Now on Tap กับเรื่องอื่นๆ ได้ เช่น ข้อมูลร้านอาหาร ซึ่งจะดึงรายละเอียดมาจาก Google Maps, Yelp กับ OpenTable ครับ
Now on Tap ยังสามารถเปิดใช้งานซ้อนแอปฯ ได้เลย โดยที่ไม่ต้องออกจากตัวแอปฯ ก่อนอีกด้วย
Android Pay
หลังจากที่ แอปเปิล ได้เปิดตัว Apple Pay กันไปแล้ว ล่าสุด ทางฝั่งกูเกิล ก็มี Android Pay กันบ้าง ซึ่งเป็นการนำ Google Wallet มารีเมคใหม่นั่นเอง โดยสามารถใช้งานได้กับ มือถือแอนดรอยด์ทุกรุ่น ที่รองรับการใช้งาน NFC และรัน Android 4.4 (KitKat) ขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ ได้ร่วมมือกับบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่ 4 รายด้วยกัน ได้แก่ Visa, Mastercard, AMEX และ Discover รวมไปถึงโอเปอร์เรเตอร์ 3 รายใหญ่ ได้แก่ AT&T, Verizon และ T-Mobile
ระบบสแกนลายนิ้วมือ
ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนหลายรุ่นต่างมีระบบสแกนลายนิ้วมือกันบ้างแล้ว ซึ่งบน Android M ได้มีการพัฒนาระบบสแกนลายนิ้วมือ เข้ามาในระบบปฏิบัติการเลย ซึ่งนอกจากจะมีไว้ปลดล็อคหน้าจอ หรือซื้อสินค้าบน Play Store แล้ว ยังอนุญาตให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน สามารถนำระบบสแกนลายนิ้วมือ มาใช้งานกับตัวแอปฯ ได้ เช่น ซื้อของภายในตัวแอปฯ เป็นต้น
Custom Chrome Tab
ปกติแล้ว เวลาที่คลิกลิงค์บน Facebook จะมีการเปิดเบราว์เซอร์อีกตัวขึ้นมา ที่เรียกว่า WebView ซึ่งเบราว์เซอร์นี้ จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย เช่น เพิ่ม Bookmarks นอกจากเอาไว้อ่านเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้ บน Android M จึงได้พัฒนา Custom Chrome Tab ขึ้นมาครับ ซึ่งจะดึงข้อมูลต่างๆ เช่น พาสเวิร์ด จาก Chrome มาใช้งานด้วย มีความปลอดภัยกว่า WebView แบบเดิมๆ
Power & Charging
บน Android M ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ที่มีชื่อว่า Doze ด้วยการตรวจจับการทำงานของอุปกรณ์ เช่น ถ้าหากอุปกรณ์ถูกวางไว้เฉยๆ จะเข้าสู่โหมด Deep Sleep ซึ่งจะมีการใช้พลังงานน้อยมาก ทำให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้มากนั่นเอง ซึ่งพวกการแจ้งเตือนต่างๆ จะไม่เด้งขึ้นมาเมื่อเข้าสู่โหมด Deep Sleep แต่พวกสายเรียกเข้า หรือนาฬิกาปลุก จะมีการใช้งานตามปกติครับ โดยหลังจากการทดสอบ พบว่า ประหยัดพลังงานได้ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากฟีเจอร์ Doze จะช่วยทำให้แบตฯ อึดกว่าเดิมแล้ว Android M ยังรองรับการใช้งาน USB-C ทำให้ตัวอุปกรณ์สามารถชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ตัวอื่นได้
App Links
ถ้าเป็น Android เวอร์ชันก่อนๆ เวลาที่เปิดลิงค์ขึ้นมา จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาว่า จะให้เปิดใช้งานกับแอปฯ ตัวไหน แต่บน Android M จะทำการจับคู่มาให้เรียบร้อยแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนส่งลิงค์ของ Twitter มาให้ ก็จะทำการเปิดด้วยแอปฯ Twitter เลยทันที โดยไม่ต้องเด้งขึ้นมาถามอีกต่อไป
Direct Share
Direct Share เป็นการแชร์แบบใหม่ ที่สามารถเลือกได้เลยว่า จะแชร์กับใคร ผ่านแอปพลิเคชันใด ยกตัวอย่างเช่น แชร์ภาพให้แฟนบ่อยๆ ผ่านทาง Messenger ซึ่งครั้งต่อไป ก็จะมีไอคอน Messenger รอไว้ พร้อมกับใบหน้าของแฟน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องกดซ้ำๆ บ่อยๆ ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น และรวดเร็วขึ้นนั่นเอง
Volumn Control
ปกติ การปรับระดับเสียงบน Android ผู้ใช้มักจะเกิดความสับสนว่า เป็นการปรับเสียงริงโทน หรือเสียงในตัวแอปฯ กันแน่ ซึ่งบน Android M ได้ปรับปรุง Volumn Control แบบใหม่ ด้วยการแยกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จะปรับเสียงอะไร เช่น เสียงริงโทน, เสียงเพลง หรือเสียงนาฬิกาปลุก
Android M เปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อใด
ในตอนนี้ ยังไม่มีข้อมูลเผยออกมาอย่างเป็นทางการว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใดบ้าง จะได้อัปเดตเป็น Android M แต่คาดว่า น่าจะปล่อยให้ดาวน์โหลดราวๆ ช่วงปลายปีนี้ ส่วนผู้ที่ใช้ Nexus 5, Nexus 6 และ Nexus 9 สามารถเข้าไปดาวน์โหลด Android M Developer Preview มาทดสอบใช้งานกันก่อนได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง

News update