วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เปิดตัว iPhone 8 (ไอโฟน 8) อัปเดตล่าสุด

ยังคงเป็นหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มีข่าวหลุดออกมาให้รับทราบกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับว่าที่เรือธงรุ่นต่อไปอย่าง iPhone 8 ซึ่งมีกระแสข่าวเปิดเผยออกมาว่า ทาง Apple เตรียมพลิกโฉมการดีไซน์ครั้งใหม่ด้วยการขยายพื้นที่หน้าจอให้มากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นมือถือไร้ขอบ พร้อมตัดปุ่มโฮมออกไปและถูกฝังไว้ใต้หน้าจอแทน แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าหน้าตาของ iPhone 8 ครั้งนี้อาจย้อนรอยการดีไซน์บางส่วนให้เหมือนกับ iPhone 4 ซึ่งมีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ก็เป็นได้
iPhone 4
แหล่งข่าวด้าน Supply Chain แห่งหนึ่งได้เปิดเผยรายงานผ่านทางเว็บไซต์ Digitime เอาไว้ว่า Apple เตรียมใช้โครงแบบ Stainless Steel เพื่อยึดดีไซน์แบบกระจกที่เตรียมนำมาใช้กับตัวเครื่อง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังเป็นการลดค่าใช้จ่าย และย่นระยะเวลาการผลิตให้สั้นลง ซึ่งหากข้อมูลข้างต้นเป็นจริง จะทำให้ iPhone 8 มีความคล้ายคลึงกับ iPhone 4 ที่เลือกใช้กรอบด้านข้างตัวเครื่องที่ผลิตจาก Stainless Steel พร้อมบอดี้แบบกระจกที่ด้านหลังนั่นเอง
สำหรับข้อมูลการดีไซน์ของ iPhone 8 ที่จะมาพร้อมกับบอดี้แบบกระจกเกือบทั้งตัวเครื่องนั้น ทาง Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังได้เปิดเผยการวิเคราะห์ออกมาให้ทราบกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่งข่าวดังกล่าวเริ่มมีมูลมากขึ้นเรื่อยๆ หลังมีการเปิดเผยว่า Foxconn หรือโรงงานประกอบ iPhone ได้เริ่มพัฒนาบอดี้แบบกระจกสำหรับสมาร์ทโฟนให้แก่ลูกค้ารายสำคัญอย่าง Apple Inc เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงสื่อรายใหญ่จากญี่ปุ่น Nikkei ก็ได้เผยรายงานไปในทิศทางเดียวกันถึงดีไซน์แบ Metal-Glass บน iPhone 8
นอกจากนี้ Jony Ive ดีไซน์เนอร์ระดับตำนานของ Apple ก็มีข่าวคราวออกมาว่า เขากำลังพัฒนา iPhone ที่มีดีไซน์เป็นกระจกแบบชิ้นเดียวอยู่ โดยคาดว่า Apple อาจมีการฝังปุ่มโฮม และ Touch ID ให้อยู่บนหน้าจอบนดีไซน์แบบไร้ขอบภายในปีนี้ อย่างไรก็ดี ยังคงเป็นข้อสงสัยอยู่ว่า Apple จะมีการเลือกใช้งานหน้าจอขอบโค้ง หรือหน้าจอแบบแบนราบให้เหมือนกับดีไซน์ของ iPhone 4, iPhone 5 และ iPhone SE กันแน่ แต่มีบางรายงานระบุว่า iPhone 8 รุ่นจอโค้งอาจมีเพียงแค่รุ่นท็อปสุดเท่านั้น
หากมองอีกมุมหนึ่ง การหันมาเลือกใช้ดีไซน์ด้วยกระจกของ Apple ในครั้งนี้ ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะ Apple ต้องการติดตั้งเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายของจริง Wireless Charging ที่ตกเป็นข่าวลือมาอย่างยาวนานก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านต้นก็ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หาก Apple ต้องการฉลองครบรอบ iPhone รุ่นแรกในวาระครบ 10 ปี ด้วย iPhone รุ่นใหม่ภายในปีนี้ เราอาจได้เห็นอะไรดีๆ บน iPhone 8 ก็เป็นได้ ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปครับ - 9To5Mac
 iPhone 8 จ่อมาพร้อมกับหน้าจอโค้งแบบ OLED ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีรองรับแรงกดแบบใหม่ ตอบสนองได้ไม่ว่าจะแตะตรงส่วนไหนของตัวเครื่อง
ในช่วงนี้ ข่าวคราวเกี่ยวกับ iPhone รุ่นถัดไปมีรายงานกันอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ ซึ่งรายงานล่าสุด ระบุว่า iPhone รุ่นถัดไป จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้งแบบ OLED แล้ว
โดยก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2017 ซึ่งอาจจะใช้ชื่อ iPhone 7S หรือไม่ก็ iPhone 8 นั้น จะมีรุ่นเกรดพรีเมียม ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ OLED ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะยังคงใช้หน้าจอแบบ LCD ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า หน้าจอแบบ OLED ที่ว่านี้ จะเป็นแบบจอโค้ง คล้ายกับ Samsung Galaxy S7 แต่จะเป็นหน้าจอแบบพลาสติก ไม่ใช่กระจก
สำหรับผู้ผลิตหน้าจอโค้งแบบ OLED ให้กับ แอปเปิล ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบริษัท Samsung Display ซึ่งจะเป็นผู้ผลิตหน้าจอแบบ OLED เพียงรายเดียวให้กับ แอปเปิล ในปี 2017 นี้ โดยมี Sharp กับ LG มาช่วยเสริมทัพกำลังการผลิตในปี 2018 แต่ว่าข้อมูลนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง เนื่องจากปีหน้า เป็นปีที่ iPhone ครบรอบ 10 ปีนั่นเอง
โดยสื่อ Herald จากเกาหลีใต้ เผยว่า กำลังการผลิตหน้าจอโค้งแบบ OLED จากซัมซุงนั้น คาดว่า จะอยู่ที่ราว ๆ 70-100 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ และต่ำกว่าจำนวน iPhone ที่แอปเปิลขายได้ในแต่ละปี ซึ่งอยู่ที่ราว ๆ 200 ล้านเครื่อง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า iPhone ที่มาพร้อมกับหน้าจอโค้งแบบ OLED นั้น อาจจะเลื่อนเปิดตัวไปอีก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดด้านการผลิตด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากหน้าจอโค้งแบบ OLED แล้ว ยังคาดกันว่า iPhone รุ่นถัดไป จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีรองรับแรงสัมผัสแบบใหม่ ที่สามารถตอบสนองได้ไม่ว่าจะแตะที่ส่วนไหนของตัวเครื่อง แต่ทว่า แหล่งข่าวได้ย้ำในตอนท้ายว่า แอปเปิล อาจจะไม่ตัดสินใจใช้เทคโนโลยีดังกล่าวก็เป็นได้
นอกจากเรื่องของ หน้าจอโค้งแบบ OLED แล้ว ยังมีข่าวลือว่า iPhone 8 (iPhone 7S) จะมาพร้อมกับระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย, บอดี้แบบกระจก, ไร้ปุ่ม Home, หน้าจอแบบชิดขอบ และระบบ Touch ID ที่ฝังลงไปในหน้าจออีกด้วย - macrumors.com
KGI เผย iPhone 8 จะเปิดตัว 3 รุ่น มีแค่รุ่นท็อปสุดเท่านั้นที่ใช้หน้าจอ OLED ส่วนกล้องคู่ Dual-Camera มีแค่รุ่นกลางและรุ่นท็อป
KGI Securities บริษัทวิเคราะห์ supply chain ชื่อดังได้เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับ iPhone 8 ที่จะเปิดตัวในปีหน้าว่า เรือธงแห่งอนาคตของ Apple นี้ จะเปิดตัวถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยจะมีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่ใช้หน้าจอ OLED ส่วนที่เหลือจะยังคงใช้หน้าจอ TFT-LCD อยู่เช่นเดิม ส่วนกล้องคู่แบบ iPhone 7 Plus จะมีอยู่ในรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้วจำนวน 2 รุ่นเท่านั้น ซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้
  • iPhone 8 รุ่น 4.7 นิ้ว : หน้าจอแสดงผล LCD ไม่มีกล้องคู่
  • iPhone 8 รุ่น 5.5 นิ้ว : หน้าจอแสดงผล LCD มีกล้องคู่
  • iPhone 8 รุ่น 5.5 นิ้ว : หน้าจอแสดงผล OLED มีกล้องคู่
สังเกตได้ว่าข้อมูลล่าสุดนี้สวนทางกับข้อมูลชุดก่อนที่บอกว่า iPhone 8 จะมีดีไซน์ไร้ขอบและหน้าจอแสดงผลขนาด 5 และ 5.8 นิ้ว แม้ขนาดหน้าจอจะไม่ใหญ่ขึ้นแต่ดีไซน์ไร้ขอบก็ยังอาจจะมีความเป็นไปได้อยู่บ้างจนกว่าจะมีข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา
นอกจากเรื่องหน้าจอและกล้องแล้ว KGI ยังเคยออกมาทำนายหลายครั้งว่า iPhone 8 จะใช้ดีไซน์แบบกระจกทั้งหมด ซึ่งรุ่นสุดท้ายใช้ดีไซน์แบบนี้คือ iPhone 4 และ iPhone 4s เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภคที่ชอบสีมันเงาของ iPhone 7 Jet Black มากกว่าสีอื่น แต่วัสดุอลูมีเนียมเป็นรอยง่าย การเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์กระจกจะยังคงความหรูหรามันเงาเอาไว้และทนทานต่อแรงขีดข่วนมากกว่า (แต่จะแตกร้าวง่ายกว่า)
สำหรับหน้าจอ OLED คาดว่า Apple จะนำเทคโนโลยีแสดงผลของ Apple Watch และ MacBook Pro 2016 มาปรับใช้เข้าด้วยกัน แต่ในตอนนี้ ชิ้นส่วนหน้าจอ OLED ดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่ไลน์ผลิต ก่อนหน้านี้ Sharp เคยยืนยันว่า iPhone 8 จะใช้หน้าจอ OLED ของตนแน่นอน อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ทั้ง Samsung และ LG ต่างก็กำลังแย่งกันจะเป็นซัพพลายเออร์หน้าจอ OLED ให้ Apple อยู่เช่นกัน - 9to5Mac
นักวิเคราะห์ชี้ iPhone 8 อาจขยายหน้าจอสูงสุด 5.8 นิ้วบนดีไซน์ไร้ขอบ ฝังปุ่มโฮมและกล้องหน้าไว้ใต้จอ
ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ของ iPhone 8 นั้นมีออกมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ล่าสุดเหล่านักวิเคราะห์ supply chain ต่างก็ออกมาทำนายว่า iPhone 8 จะมีดีไซน์ไร้ขอบ โดยมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว และ iPhone 8 Plus จะมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.8 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่า iPhone 7 (4.7 นิ้ว) และ iPhone 7 Plus (5.5 นิ้ว) เล็กน้อย
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังคาดว่า Apple จะติดตั้งเซ็นเซอร์ Touch ID และปุ่มโฮมเอาไว้ใต้หน้าจอแสดงผลเพื่อกำจัดขอบหนาๆ ด้านล่างของตัวเครื่องที่เราเห็นกันจนชินตาออกไป แต่จะใช้เทคโนโลยีอัลตร้าโซนิคเหมือน Xiaomi Mi Mix หรือไม่นั้นยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็คาดกันว่าจะถูกฝังอยู่ใต้จอแสดงผลเช่นกัน เพราะในตอนนี้ Apple ก็ถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งกล้องใต้หน้าจอแสดงผลอยู่หลายฉบับด้วย
แม้รายงานจากนักวิเคราะห์ในครั้งนี้ จะยังไม่สามารถเชื่อได้ 100% แต่แหล่งข่าวหลายแห่งก็รายงานตรงกันว่า Apple ได้เตรียมปรับดีไซน์โครง (chassis) ของ iPhone 8 แล้ว หลังจากที่โครงของ iPhone 7 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากโครงของ iPhone 6s มากนัก
Ming-Chi Kou นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก KGI ได้เปิดเผยข้อมูลมาสักพักแล้วว่า iPhone รุ่นต่อไปจะเป็นดีไซน์กระจกทั้งหมด พร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED แทน IPS LCD ซึ่งหน้าจอประเภท OLED นี้จะให้ค่า saturation และ contrast ในระดับที่สูงกว่า และยังใช้พลังงานในการแสดงผลภาพขาวดำต่ำกว่ามากเนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ได้ใช้ backlight อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวหลายสำนักรายงานว่า iPhone 8 จะขยายหน้าจอแสดงผลเพิ่มอีก 0.3 นิ้ว ซึ่งหากเป็นความจริง ก็จะยิ่งสอดคล้องกับคำทำนายเรื่องดีไซน์ไร้ขอบ เพราะดีไซน์แบบนี้จะทำให้ขยายพื้นที่หน้าจอได้โดยที่ขนาดของตัวเครื่องไม่เปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนไปน้อยมาก
ช่วงหลังนี้กระแสสมาร์ทโฟนไร้ขอบกำลังมาแรงมาก จึงไม่แปลกหากแบรนด์อันดับต้นๆ ของวงการจะนำดีไซน์แบบนี้มาใช้บ้าง แม้ว่าในตอนนี้ฝั่ง Android จะเริ่มชิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่มีดีไซน์แบบไร้ขอบจริงๆ (Xiaomi Mi Mix ยังมีขอบบางๆ อยู่) หรือที่มีแววว่าจะทำได้ เช่น Huawei ก็ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ในปีหน้าก็ต้องมาลุ้นกันว่า iPhone 8 จะนำเอาเทคโนโลยีไร้ขอบมาใช้ได้ทัดเทียมกับสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ในอนาคตหรือไม่ครับ - 9to5Mac
สื่อนอกเผย iPhone 8 จะมีให้เลือกถึง 3 รุ่น เพิ่มรุ่นหน้าจอขนาด 5 นิ้วเข้ามา พร้อมยกระดับรุ่นพรีเมียม ด้วยหน้าจอชิดขอบแบบ OLED และบอดี้แบบกระจก จ่อเปิดตัวปลายปีหน้า!
หลังจากการเปิดตัวและวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ไม่นาน ล่าสุด ก็เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone รุ่นถัดไปออกมาแล้ว เมื่อทาง Nikkei สื่อจากประเทศญี่ปุ่น เผยว่า iPhone 8 (iPhone 7S) จะมีให้เลือกกันถึง 3 รุ่น และเปิดตัวในปี 2017 นี้
สำหรับข้อมูลจากสื่อ Nikkei นี้ ค่อนข้างสอดคล้องกับข่าวลือก่อนหน้า ที่เผยว่า แอปเปิล จะเปิดตัว iPhone รุ่นถัดไปถึง 3 รุ่น 3 ขนาดหน้าจอด้วยกัน ได้แก่ 5.5 นิ้ว, 5 นิ้ว และ 4.7 นิ้ว โดยรุ่นระดับพรีเมียมนั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอชิดขอบแบบ OLED และบอดี้แบบกระจก ส่วน 2 รุ่นที่เหลือ จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ LCD และบอดี้อะลูมิเนียมเหมือน iPhone รุ่นปัจจุบัน
นอกจากนี้ ทาง Nikkei เผยว่า ข้อมูลดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง เนื่องจากในตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของหน้าจอชิดขอบแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่ iPhone 8 จะฝังระบบ Touch ID ลงในหน้าจอ, ตัดปุ่ม Home ออก หรือรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
อย่างไรก็ดี ในตอนนี้ ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า iPhone 8 จะมีสเปกและคุณสมบัติอะไรบ้าง แต่คาดว่า ในอนาคตน่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 8 เผยออกมา ซึ่งทีมงานจะรายงานให้ทราบกันต่อไป - macrumors.com
หลุดข้อมูล Apple ซุ่มพัฒนา iPhone 8 ในอิสราเอล คาดพลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ ด้วยหน้าจอขอบโค้ง กล้องที่ดีขึ้นและ Touch ID บนหน้าจอแบบไร้ปุ่ม Home
ถึงแม้ว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน แต่ล่าสุด ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone รุ่นถัดไปที่จะเปิดตัวในปี 2017 เผยออกมาแล้ว โดยแหล่งข่าวอ้างว่า เป็นพนักงานของบริษัท Apple ที่ตั้งอยู่ที่ Herzliya ประเทศอิสราเอล เผยว่า ในตอนนี้ แอปเปิล ได้เริ่มพัฒนาฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่สำหรับ iPhone รุ่นถัดไปแล้ว
แม้ในตอนนี้ จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่า iPhone รุ่นที่จะเปิดตัวในปี 2017 จะใช้ชื่อว่าอะไรกันแน่ แต่วงในคนดังกล่าวเผยว่า ชื่อเรียกกันภายใน ใช้ชื่อ iPhone 8 แทนที่จะเป็น iPhone 7S ที่ควรจะเป็น ไอโฟนรุ่นถัดไปจาก iPhone 7 ที่เปิดตัวไปแล้วในปีนี้ อย่างไรก็ดี ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ iPhone รุ่นที่จะเปิดตัวในปีหน้า อาจจะใช้ชื่อ iPhone 8 เนื่องจากแหล่งข่าววงใน เผยว่า iPhone รุ่นนี้ จะเป็นรุ่นที่พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน จึงไม่น่าจะใช้ตัวอักษร S ต่อท้าย ที่สื่อความหมายว่า เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (minor change)
สำหรับการเปลี่ยนแปลงแบบครั้งใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นกับ iPhone 8 นั้น คาดว่า จะมาพร้อมกับบอดี้แบบกระจกทั้งหมด, หน้าจอแบบชิดขอบ (edge-to-edge) ที่ฝัง Touch ID และกล้องไว้ภายใน, ไม่มีปุ่ม Home และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย นอกจากนี้ ในปีหน้า จะเป็นปีที่ iPhone เปิดตัวครบรอบ 10 ปีอีกด้วย จึงทำให้ถูกคาดหวังว่า น่าจะมีการเซอร์ไพร์สอะไรบางอย่างด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ข้อมูลข้างต้น ยังไม่สามารถให้ความน่าเชื่อถือได้ในตอนนี้ เนื่องจากถือว่า ยังเร็วเกินไปที่จะมี ข่าวลือ เกี่ยวกับ iPhone รุ่นถัดไปหลังจากเปิดตัว iPhone 7 ได้ไม่นาน ส่วนศูนย์ Apple ในประเทศอิสราเอลนั้น เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา R&D แห่งใหม่ ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว เน้นพัฒนาฮาร์ดแวร์เป็นหลัก อย่างเช่น ชิปเซ็ต, หน่วยความจุภายใน, กล้อง และเทคโนโลยีด้านไร้สาย โดยมีพนักงานอยู่ราว ๆ 800 คน นอกจากนี้ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิล ได้เคยไปเยือนศูนย์วิจัยดังกล่าวมาแล้ว พร้อมกับเผยว่า เป็นศูนย์วิจัย R&D ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย - macrumors.com
iPhone 8 อาจนำปุ่ม Home ฝังเซ็นเซอร์สแกนนิ้วอัลตร้าโซนิคมาใช้แทนปุ่ม Home แบบเก่า พร้อมชมคลิปตัวอย่างการทำงาน
มีข่าวกันออกมาสักพักแล้วว่า Apple กำลังพยายามจะพัฒนา iPhone รุ่นต่อไปที่มีหน้าจอไร้ขอบแบบเต็มตัวเครื่องด้านหน้า โดยให้ปุ่ม Home และเซ็นเซอร์ Touch ID ติดตั้งอยู่ภายใต้หน้าจอแสดงผล เราอาจจะมองว่า Apple ได้เปลี่ยนปุ่ม Home เป็นแบบสัมผัสใน iPhone 7 เพื่อปูทางไปสู่เทคโนโลยีใหม่นี้ก็ได้ นอกจากนี้สิทธิบัตรของ Apple ที่ยื่นจดทะเบียนไปเมื่อเดือนพฤษภาคมก็ได้อธิบายถึงเทคโนโลยี "ultrasonic imaging" หรือการสแกนลายนิ้วมือด้วยอัลตร้าโซนิค ที่คาดว่า Apple จะนำมาใช้ในอนาคตด้วย

ตัวอย่างคอนเซ็ปต์ iPhone 7 ที่ Martin Hajek เคยทำออกมา
เทคโนโลยีเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคนี้ไม่ได้เป็นนวัตกรรมเพ้อฝันแต่อย่างใด แต่สามารถนำมาใช้ได้จริงๆ อย่างเช่นที่ Xiaomi ได้นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับสมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุด Xiaomi Mi 5S และ Mi 5S Plus เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทคโนโลยีนี้นอกจากจะทำให้ตัวเซ็นเซอร์ฝังอยู่ใต้กระจกได้แล้ว ยังมีความแม่นยำสูงกว่า Touch ID อีกด้วย เพื่อให้ตัวเซนเซอร์ทำงานได้ดีขึ้น Xiaomi ได้ออกแบบให้บริเวณปุ่ม Home เป็นร่องบุ๋มลงไปเล็กน้อย ซึ่งคอนเซ็ปต์เรนเดอร์ของ iPhone 7 ฝีมือของ Martin Hajek ที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็นำดีไซน์เช่นนี้มาใช้ด้วยเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบอัลตร้าโซนิคของ Xiaomi ติดตั้งอยู่ใต้กระจกก็จริง แต่ไม่ได้ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล หมายความว่าถึงแม้จะมีตัวเครื่องด้านหน้าเป็นกระจกทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ได้หน้าจอแบบไร้ขอบเต็มๆ อยู่ดี
ชมวิดีโอตัวอย่างเทคโนโลยีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบอัลตร้าโซนิคของ Xiaomi ได้ด้านล่าง (ภาษาจีน) :
จากคลิปดังกล่าวจะเห็นว่า Xiaomi Mi 5S ไม่ได้มีหน้าจอแสดงผลที่ครอบคลุมไปถึงบริเวณปุ่ม Home ทำให้หน้าจอยังมีขอบบนและขอบล่างอยู่ แต่คอนเซ็ปต์เรนเดอร์ iPhone ของ Martin Hajek นั้น การแสดงผลจะกินบริเวณไปถึงปุ่ม Home ด้วยตามรูปด้านล่าง
กว่า Apple จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เราก็คงจะคุ้นเคยกับปุ่ม Home แบบสัมผัสกันไปแล้ว ทำให้อาจจะไม่ได้ดูเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าฮือฮาเท่าไหร่นัก แม้กระแสตอบรับปุ่ม Home แบบใหม่นี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพักผู้ใช้จะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้แน่นอน - 9to5mac
เราควรซื้อ iPhone 7 ตอนนี้ หรือรออัปเกรดเป็น iPhone 8 ในปีหน้า?
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เริ่มวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศแล้วและก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามตามคาด ในบ้านเราเองราคาเครื่องหิ้วก็กระโดดไปถึง 4 หมื่น - 7 หมื่นบาท นับว่าความนิยมยังไม่สร่างซา แม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆ เรื่องก็ตาม ทั้งเรื่องการอัปเกรดที่ดูแล้วไม่ต่างจาก iPhone 6s มากนัก และเรื่องการตัดช่องหูฟังออกที่หลายคนยังทำใจไม่ได้สักที ทำให้คนที่กำลังจะซื้อ iPhone 7 เกิดอาการลังเล โดยเฉพาะคนที่ใช้ iPhone 6s อยู่แล้วยิ่งคิดหนักว่าจะลงทุนอัปเกรดไปใช้ iPhone 7 หรือ 7 Plus ดีหรือเปล่า เพราะทั้งสองรุ่นไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกันมากนัก หรือควรจะรอ iPhone 8 ไปเลยดีกว่า เพื่อช่วยในการตัดสินใจ เรามาดูความแตกต่างของ iPhone 6s และ iPhone 7 พร้อมกับความเป็นไปได้ของ iPhone 8 กันดีกว่าครับ
iPhone 7 ดีกว่า iPhone 6s แค่ไหน?
ส่วนที่มีการอัปเกรดอย่างเห็นได้ชัดของ iPhone 7 คือกล้อง โดยจะเป็นกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่อัปเกรดเซ็นเซอร์ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมไฟแฟลชแบบ Quad-LED (ไฟแฟลช 4 ดวง) สว่างกว่าเดิม 50% กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล และระบบกันสั่นแบบ OIS สำหรับกล้องของ iPhone 7 Plus นั้นจะเป็นกล้องแบบ Dual-Camera ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เลนส์ ได้แก่ เลนส์ Wide 28mm (F/1.8) และเลนส์ Telephoto 56mm (F/2.8) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทั้ง 2 เลนส์ สามารถซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า และซูมแบบ Digital ได้ 10 เท่า นอกจากนี้ ยังสามารถแยกฉากหลังออกจากฉากหน้า ทำให้สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว ภาพแบบนี้จะสามารถทำได้จากกล้องแบบ DSLR หรือมือถือบางรุ่นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีฟังก์ชันนี้ก็ยังมีข้อเสียคือสามารถใช้ได้กับการถ่ายแบบเซลฟี่เท่านั้น หากเทียบในเรื่องกล้องแล้ว iPhone 7 และ 7 Plus มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า iPhone 6s พอสมควร  แต่หากว่ากันตามตรง กล้องของ iPhone 6s ก็มีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจและเพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว
สำหรับเรื่องหน่วยประมวลผลภายใน ทั้ง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Apple A10 Fusion แบบ Quad-Core Processor และ M10 Motion Coprocessor ซึ่งประมวลผลได้เร็วกว่าชิปเซ็ต Apple A9 บน iPhone 6S และ iPhone 6S Plus ถึง 40%, เร็วกว่าชิปเซ็ต Apple A8 ถึง 2 เท่า ส่วนชิปประมวลผลกราฟิก เป็นแบบ Six-Core Processor เร็วกว่าบน Apple A9 ถึง 50% นอกจากนี้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังรองรับเครือข่าย LTE มากถึง 25 ความถี่ พร้อมเทคโนโลยี LTE Advanced สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่า iPhone 6 ถึง 3 เท่า สูงสุดที่ 450 Mbps ตรงส่วนนี้ก็นับว่าเหนือกว่า iPhone 6s อย่างชัดเจน ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก โดยมีความจุเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งบน iPhone 7 ก็คือ ปุ่ม Home แบบใหม่ ที่รองรับเทคโนโลยี 3D Touch พร้อม Taptic Engine ที่ตอบสนองการกดด้วยการสั่น ให้ความรู้สึกใกล้เคียงปุ่มกดแบบเก่า แถมยังทำให้ตัวเครื่องกันน้ำได้ดีกว่าเดิมเพราะเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องจึงไม่มีช่องให้น้ำเข้า อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะไม่ชอบปุ่มกดแบบนี้เพราะความรู้สึกที่คุ้นเคยในการกดปุ่ม Home ได้หายไปจนเกือบหมด แถมสื่อต่างประเทศที่ได้ทดลองใช้ตัวเครื่องในงานเปิดตัวก็พากันวิจารณ์ว่ามันไม่น่าประทับใจเท่าไหร่
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องช่องหูฟัง เป็นที่รู้กันดีว่าตอนนี้ iPhone 7 ไม่มีช่องหูฟังอีกแล้ว หากจะฟังเพลงก็ต้องฟังผ่านพอร์ต Lightning หรือใช้หูฟังไร้สายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม Apple ได้แถมอแดปเตอร์แปลง Lightning เป็นช่องหูฟังให้แล้วในกล่อง ซึ่งก็พอจะให้อภัยได้ ส่วน iPhone 6s นั้นยังมีช่องหูฟังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะชอบแบบนี้มากกว่า
เราควรจะรอ iPhone 8 ดีไหม?
ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 8 ออกมามากนัก จะมีก็เพียงข่าวลือและความเป็นไปได้เท่านั้น แต่ iPhone 8 ก็ยังน่าสนใจและเป็นที่จับตามองเพราะในปี 2017 นี้จะเป็นเวลาครบรอบ 10 ปี iPhone แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า Apple ตั้งใจจะเก็บเทคโนโลยีเด็ดๆ เอาไว้ใช้กับ iPhone 8 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีหน้า เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง
จากการวิเคราะห์ของสื่อต่างๆ คาดว่า iPhone 8 จะได้รับการปรับปรุงดีไซน์ขนานใหญ่ โดยใช้ตัวเครื่องเป็นกระจก และเปลี่ยนจากหน้าจอ IPS LCD ไปเป็น OLED ที่ให้สีสันสดใสกว่า พร้อมกับหันไปใช้ดีไซน์หน้าจอโค้งมน ที่บางแหล่งข่าวก็บอกว่าจะเป็นหน้าจอโค้งที่ครอบคลุมไปถึงขอบด้านข้างและตัวเครื่องด้านหลัง กลายเป็นหน้าจอแสดงผล 360 องศาเลยทีเดียว ซึ่งการอัปเกรดหน้าจอแสดงผลจะเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับ iPhone 8 เพราะในตอนนี้คู่แข่งอย่าง Samsung ได้ล้ำหน้าไปก้าวหนึ่งด้วยหน้าจอ OLED แบบโค้งมนใน Galaxy S7 และ Note 7 แล้ว

ตัวอย่างดีไซน์ iPhone 8 แบบมีหน้าจอแสดงผลรอบด้านที่คาดว่าอาจจะนำมาใช้
สื่อญี่ปุ่นอย่าง Nikkei ได้อ้างข้อมูลจากซัพพลายเออร์ในไต้หวันว่า Foxconn ซึ่งเป็นผู้รับผลิต iPhone ให้ Apple ได้พยายามพัฒนาการผลิตตัวเครื่องแบบกระจกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ข้อมูลส่วนนี้เริ่มจะมีน้ำหนักขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีใน iPhone 7 นั้นก็คงจะมีอยู่ใน iPhone 8 และได้รับการอัปเกรดขึ้นมาเช่นกัน
ถึงแม้ iPhone 8 จะถูกคาดหวังเอาไว้มาก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า iPhone 8 จะมาพร้อมกล้องคู่แบบ iPhone 7 Plus หรือไม่ และจะนำช่องหูฟังกลับมาหรือเปล่า หรืออาจจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ไปเลยก็ได้
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังมองว่า iPhone 8 จะมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้มากขึ้น เพื่อให้กลายเป็น "ผู้ช่วยส่วนตัว" ที่แท้จริงของผู้ใช้อีกด้วย
แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับ iPhone 8 ออกมาในตอนนี้ แต่ก็เริ่มมีคนทำภาพ concept ออกมาให้ดูกันแล้ว ตามภาพด้านล่าง
โดยสรุปแล้วส่วนตัวคิดว่า สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ iPhone อยู่แล้ว และอยากจะลองเริ่มต้นกับมันดู iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล่าสุดของ Apple และมีประสบการณ์การเริ่มต้นที่ดี แต่สำหรับคนที่ใช้ iPhone 6s อยู่แล้ว หากต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ตอนนี้อาจจะยังดูไม่คุ้มเท่าไหร่นัก แนะนำว่าให้รอดูท่าทีของ iPhone 8 ไปก่อน หากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จริงๆ ค่อยเปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่ก็ยังไม่สายครับ - news.com.au
นักวิเคราะห์เชื่อ iPhone 8 คือรุ่นที่ถูกอัปเกรดมากที่สุด ทั้งหน้าจอแบบ OLED บนบอดี้แบบใหม่ ไร้ปุ่ม Home พร้อมรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 
iPhone 7 ยังไม่ทันจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บรรดานักวิเคราะห์ ก็เริ่มออกมาประเมินความเป็นไปได้ของ iPhone 8 (ไอโฟน 8) กันแล้ว และล่าสุด Mark Moskowitz นักวิเคราะห์จาก Barclays ได้ออกมาเผยว่า iPhone 8 จะเป็นรุ่นที่ถูกอัปเกรดมากที่สุด ทั้งดีไซน์ใหม่ และฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง การชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ในขณะที่ iPhone 7S ซึ่งเปิดตัวก่อนหน้านั้น แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
โดยนักวิเคราะห์คนดังกล่าว เผยว่า การเปลี่ยนแปลงของ iPhone 8 นั้น จะส่งผลทำให้ยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้นอีก 10.3% ซึ่ง iPhone 8 นั้น จะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED และดีไซน์ตัวเครื่องแบบใหม่ ไร้ปุ่ม Home ซึ่งถือว่า เป็นสัญลักษณ์ของ iPhone อีกด้วย โดยข้อมูลนี้ สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้าที่ว่า แอปเปิล กับพาร์ทเนอร์ จะเริ่มกระบวนการผลิตหน้าจอแบบ OLED ได้ในปี 2017 รวมไปถึงการพัฒนาชิปเซ็ตแบบใหม่ ให้เป็นแบบ Single-Chip หรือการรวมชิ้นส่วนหน้าจอ กับระบบทัชสกรีนไว้ด้วยกัน เพราะถ้าหาก iPhone 8 ไม่มีปุ่ม Home จริงตามรายงานนี้ หน้าจอจะเป็นฟังก์ชันที่สำคัญที่สุดในการใช้งาน ทั้งในเรื่องของ Touch ID รวมไปถึงการสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย
ส่วน iPhone 7 ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปีนี้นั้น ทาง Mark Moskowitz เชื่อว่า จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การอัปเกรดชิปเซ็ต หรืออัปเกรดกล้องถ่ายรูป อย่างไรก็ดี ข่าวลือก่อนหน้านั้น ได้ชี้ว่า iPhone 7 จะมีบอดี้ต่างจากรุ่นปัจจุบันเล็กน้อย เนื่องจากมีการตัดช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไปนั่นเอง
สำหรับข้อมูลข้างต้น เป็นเพียงคำวิเคราะห์เท่านั้น ซึ่งยังเหลือเวลาอีกนานกว่าที่ iPhone 8 จะเปิดตัว จนกว่าจะถึงเวลานั้น น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ - macrumors.com
iPhone 8 (ไอโฟน 8) จะเป็น iPhone รุ่นแรก ที่มาพร้อมหน้าจอโค้งแบบ OLED
ยังไม่ทันที่ iPhone 7 (ไอโฟน 7) จะเปิดตัว ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 8 เผยออกมาแล้ว เมื่อแหล่งข่าวรายหนึ่งในเกาหลีใต้ เผยว่า บริษัทผู้ผลิตหน้าจอในเกาหลี ได้นำ หน้าจอขอบโค้ง ไปเสนอกับฝั่งผู้บริหารระดับสูงของ แอปเปิล และได้รับความสนใจมากเลยทีเดียว
โดยปัจจุบัน แอปเปิล ได้ใช้หน้าจอยืดหยุ่นแบบ OLED บน Apple Watch ไปแล้ว ซึ่งหน้าจอดังกล่าว ผลิตโดย LG Display และ Samsung Display ซึ่งมีรายงานว่า LG Display กำลังจะเปลี่ยนโรงงานผลิตหน้าจอแบบ LCD ให้กลายเป็นโรงงานผลิตหน้าจอแบบ OLED ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ iPhone 8 จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้งนั่นเอง
สำหรับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหน้าจอโค้ง แบบ OLED ในปัจจุบัน มีให้เลือกหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy Round, Samsung Galaxy Note Edge, Samsung Galaxy S6 edge รวมไปถึง LG G Flex 2
อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าว ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า iPhone 8 จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้งแบบ OLED ตามข่าวลือ หรือบางที iPhone 7 ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปลายปีหน้า อาจจะเป็น iPhone หน้าจอโค้งรุ่นแรก ก็เป็นได้ - cultofmac.com
ภาพคอนเซปท์ iPhone 8 ชุดใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 2 ด้านทั้งหน้าและหลัง
ถึงแม้ว่า iPhone 6S จะยังไม่ได้เปิดตัว แต่ไอเดียภาพคอนเซปท์ต่างๆ ก็ยังคงมีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับภาพคอนเซปท์ iPhone 8 จากนักออกแบบนามว่า Jermaine Smit ชุดนี้ เรียกได้ว่า ไอเดียบรรเจิดกันเลยทีเดียว เมื่อ iPhone 8 concept นี้ มาพร้อมกับหน้าจอทั้งด้านหน้า และด้านหลัง คล้ายกับ YotaPhone สมาร์ทโฟนจากรัสเซียนั่นเอง
โดยหน้าจอด้านหน้าของ iPhone 8 นั้น มาพร้อมกับความละเอียดระดับ 2K ซึ่งคมชัดสุดๆ ในขณะที่หน้าจอด้านหลัง ความละเอียดอยู่ที่ 480p เท่านั้น สำหรับใช้งานด้านการแจ้งเตือนต่างๆ เนื่องจากหน้าจอความละเอียดระดับนี้ ใช้พลังงานไม่มากนั่นเอง ทำให้ iPhone 8 เครื่องนี้ ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่สุดๆ
อย่างไรก็ดี ภาพดังกล่าว เป็นเพียงคอนเซปท์เท่านั้น ไม่ใช่ตัวเครื่องจริงของ iPhone 8 แต่อย่างใดครับ - cultofmac.com
ถ้า iPhone 6 ยังไม่ถูกใจ มาชม iPhone 8 concept กันดีกว่า
แม้ว่า iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะเพิ่งวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน แต่ล่าสุด Steel Drake ดีไซน์เนอร์จากประเทศ คีร์กีซสถาน ได้โชว์ผลงานการออกแบบ iPhone 8 concept ที่เรียกได้ว่า ข้ามหน้าข้ามตา iPhone 7 กันไปเลยทีเดียว
แต่งานนี้ ต้องยอมรับว่า ผลงานการออกแบบของ Steel Drake นั้น สวยบาดใจเลยก็ว่าได้ ทั้งตัวเครื่องโค้งมน เพรียวบาง โดยเฉพาะขอบด้านข้างตัวเครื่องที่โดดเด่น สะดุดตา และน่าจะสวยกว่า iPhone 6 เสียอีก

-------------------------------------------------
รีวิวอื่น 
รวบรวมวิธีการรูท (Root) SS Galaxy Grand Duos GT-I9082 และติดตั้ง CWM-TOUCH (6.0.3.1) 
สวัสดีครับหลังจากที่ตัวผมเองได้ใช้งานเจ้า Samsung Galaxy Grand Duos GT-I9082 

 การเตรียมความพร้อม 
สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง ก็สามารถอ่านได้จากกระทู้นี้ครับ --> 
Android Tips: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนการอัพรอม Samsung Galaxy S2 โดย คุณ zaint 

1. ติดตั้งโปรแกรม Driver ของ Samsung บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราจะใช้สำหรับรูท 
1.1 ดาวน์โหลดโปรแกรม Kies จากเวบนี้ --> http://www.samsung.com/th/support/download/supportDownloadMain.do --> Credit คุณปู poowe893 ครับ  
ติดตั้งโปรแกรม Kies ที่เราดาวน์โหลดมาเสร็จแล้วรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนใช้งาน 

1.2 สำหรับใครที่ไม่ต้องการใช้งานโปรแกรม Kies ของ Samsung แต่ต้องการลงเฉพาะ Driversเท่านั้น เหมือนผมก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้จากลิงค์นี้ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=961956 
ให้ดาวน์โหลดตัว SAMSUNG USB Drivers for Mobile Phones (x86 & x64) และ SAMSUNG Android ADB Interface Driver นะครับ ส่วนวิธีการติดตั้ง Drivers ก็สามารถอ่านจากกระทู้ที่เข้าไปดาวน์โหลดได้เลย เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็รีบูตเครื่องอีกรอบ จากนั้นลองต่อเจ้า Grand กับคอมพิวเตอร์ เครื่องก็จะทำการติดตั้ง Drivers โดยอัตโนมัติครับ 
ลองตรวจสอบดูที่เครื่องคอมฯ เราได้ว่าติดตั้งสมบูรณ์มั้ยโดยไปที่ Computer Management --> Device Manager, Drivers ของเครื่อง Grand ที่ถูกติดตั้งเสร็จแล้วจะปรากฎดังภาพประกอบด้านล่าง ถ้าตัว Drivers มีเครื่องหมายตกใจหรือติดตั้งไม่สำเร็จให้ถอดสายซิงค์แล้วบูตเครื่องใหม่ จากนั้นให้ลองต่อสายซิงค์อีกรอบครับ 

2. ดาวน์โหลดไฟล์ root.tar ในกระทู้นี้ครับ --> http://forum.xda-

จากนั้น unzip จะได้โฟลเดอร์ Odin3_v3.04, ไฟล์ Fix-Recovery.zip, UPDATE-SuperSU-
V1.25.zip และ CWM-touch_i9082_chotu.tar.md5 (ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาผมเลือกใช้บางไฟล์เท่านั้นนะครับ) สามารถเลือกเซฟไว้ในเครื่องเราตรงไหนก็ได้ตามสะดวก 



3. ดาวน์โหลดไฟล์ recovery_k2wl.v1.tar (CWM 6.0.3.1) ในกระทู้นี้ครับ --> http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=2239898 มาไว้ในโฟลเดอร์ที่เราเตรียมไว้

เมื่อได้ไฟล์พร้อมแล้วก็พร้อมที่จะลุยได้เลย แบตในเครื่องควรให้เหลือซัก 60-70% ขึ้นไปนะครับ กันพลาดแบตหมดกลางทาง ทีนี้ละงานเข้าแน่ๆ



*** การปรับแต่งเครื่อง มีความเสี่ยง ควรศึกษาวิธีการอย่างละเอียด และเข้าใจก่อนลงมือ ถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น จขกท ไม่ขอรับผิดชอบนะครับ*** และวิธีการนี้ผมทดสอบบนเครื่องรุ่น I9082 เท่านั้น ยังไม่มีเครื่องรุ่น I9082L ให้ลองเล่นครับ



Step 1: การ Flash CWM Recovery

1. ที่เครื่อง Grand ให้เข้าไปที่เมนู Settings --> Developer options ให้ติ๊กเลือก USB debugging ครับ

2. Copy ไฟล์ UPDATE-SuperSU-V1.25.zip ไปไว้ที่ External storage (micro SD card) ตัวนี้เตรียมไว้ใช้ตอน flash root ผ่าน CWM ครับ

3. ที่เครื่อง Grand ให้ปิดเครื่อง รอเครื่องปิดสนิท

4. ให้เข้า Download mode : โดยการกดปุ่ม vol- (ลดเสียง ทางซ้าย) + Home+Power พร้อมๆ กัน จนขึ้นหน้าที่มีไอคอนให้เลือกอันตรงกลางจอค่อยปล่อย (ภาพแรก) แล้วกดปุ่ม vol+ (เพิ่มเสียง ทางซ้าย) เพื่อเลือก ก็จะเข้าหน้า Download mode (ภาพที่สอง)







5. ที่คอมฯ เปิดโปรแกรม Odin3 v3.04.exe และต่อสายซิงค์ Grand เข้ากับคอมฯ จากนั้นให้เช็คว่าค่าต่างๆ ตรงกับในภาพด้านล่างหรือเปล่า ( ID:COM เป็นสีเขียวและแสดงพอร์ตที่เชื่อมต่อ โดยหมายเลขพอร์ตจะแตกต่างกันในแต่ละเครื่อง และที่ช่อง Message ต้องขึ้น <ID:0/008> Added!!) ติ๊กเลือก Auto Reboot และ F.Reset Time ส่วนที่ช่อง PDA ให้คลิกแล้วเลือกไฟล์ recovery_k2wl.v1.tar ที่เราดาวน์โหลดไว้แล้ว

6. เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วให้คลิกปุ่ม Start เพื่อเริ่ม Flash CWM ครับ




7. หลังจากแฟลชเสร็จเครื่องจะรีบูทเข้าหน้าจอปกติ


Step 2: การ Flash Root โดย CWM recovery
1. ที่เครื่อง Grand ให้ปิดเครื่อง
2. ให้เข้า recovery mode : โดยการกดปุ่ม vol+ (เพิ่มเสียง ทางซ้าย) + Home+Power พร้อมๆ กัน ค้างไว้จนเข้าหน้า CWM Recovery

3. ที่หน้า CWM ถ้าหากต้องการ backup ข้อมูลก่อนก็สามารถทำได้โดยไปที่เมนู backup and restore แล้วเลือก backup เสร็จแล้วให้กลับมาที่หน้าแรก
4. เข้าเมนู install zip from sdcard --> choose zip from external sdcard --> เลือกไฟล์ UPDATE-SuperSU-V1.25.zip
รอจนเครื่อง Flash เสร็จ ให้กลับมาหน้าแรก แล้วเลือก reboot system now
เครื่องจะอัพเดตโปรแกรม Root ในการบูตครั้งแรก หลังจากนั้นก็เข้าเครื่องตามปกติเหมือนเดิมครับ
และจะมีแอปเพิ่มขึ้นมา คือ SuperSU (ถ้ามีตัวนี้แสดงว่ารูทแล้วครับ) พร้อมอีก 2 โปรแกรมที่ผมทดสอบใช้งาน

ต่อไปเราก็จะมีสิทธิพิเศษ (ความสามารถเพิ่มเติม) ใช้แอปเทพๆ อื่นๆ อีกมายที่รอท่านอยู่
 จากกระทู้นี้ --> Android Tips: วิธีการปลดปล่อยน้องเอสสี่(SSGS4 , i9500)ให้เป็นอิสระ(รูท) Root พร้อม CWM สำหรับ layout และข้อความบางตอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม : XDA-DEVELOPERS.COM 
ข้อมูลเพิ่มเติม อ่านต่อ

7 ความคิดเห็น :

  1. ขอบคุณครับ จะลองทำดูครับ

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. rootแล้วท่านอาจโดนแฮ็กข้อมูลได้ง่ายกว่าเดิม ใช่ปะ

    ตอบลบ
  5. rootแล้วสามารถใช้ 3Gคลื่น 850 เป็น H+ปะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ11 มกราคม 2560 เวลา 16:49

    ขอบคุณมากๆๆ ครับ สำหรับข้อมูลดีๆๆ

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ15 มกราคม 2560 เวลา 11:44

    รอดูราคา ก่อน อะ

    ตอบลบ

* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง

News update