ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์ OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ R รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ OPPO
R9s เจ้าของฉายา Now, It’s Clear ซึ่งมาพร้อมกับจุดเด่นด้านการถ่ายภาพ (คลิกรูป)
บนการดีไซน์ตัวเครื่องโลหะเรียบหรู และสีสันให้เลือกถึง 3 เฉด ได้แก่ สีทอง Gold, สีทองกุหลาบ Rose Gold และสีดำด้าน Black Edition ซึ่งล่าสุดนี้ OPPO ก็ได้นำ “OPPO R9s Special Red Edition” ที่มาพร้อมกับบอดี้สีแดงสะดุดตา เข้ามาวางจำหน่ายให้ผู้ใช้ในประเทศไทยได้จับจองเป็นเจ้าของด้วยเช่นเดียวกัน
บนการดีไซน์ตัวเครื่องโลหะเรียบหรู และสีสันให้เลือกถึง 3 เฉด ได้แก่ สีทอง Gold, สีทองกุหลาบ Rose Gold และสีดำด้าน Black Edition ซึ่งล่าสุดนี้ OPPO ก็ได้นำ “OPPO R9s Special Red Edition” ที่มาพร้อมกับบอดี้สีแดงสะดุดตา เข้ามาวางจำหน่ายให้ผู้ใช้ในประเทศไทยได้จับจองเป็นเจ้าของด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับ OPPO R9s Special Red Edition นอกเหนือจะมีความพิเศษในเรื่องของสีสันแล้ว ยังเป็นรุ่น Limited Edition ที่วางจำหน่ายเป็นจำนวนจำกัดเท่านั้น ซึ่งภายในวันนี้ทางทีมงาน จะพาทุกท่านไปลองดูกันหน่อยว่า OPPO R9s Special Red Edition กับตัวเครื่องสีแดงสดใหม่นี้ จะมีความสวยงามน่าใช้งานเพียงใด หากพร้อมแล้ว เราลองไปรับชมพรีวิวพร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
แกะกล่อง OPPO R9s Special Red Edition
เริ่มต้นกับแพ็กเกจกันก่อน โดยกล่องผลิตภัณฑ์ของ OPPO R9s Special Red Edition ถือว่าแตกต่างกับสีอื่นเป็นอย่างมาก ด้วยการเลือกใช้โทนสีแดง พร้อมพิมพ์ภาพตัวเครื่อง OPPO R9s ที่ด้านหน้าให้เห็นกันแบบชัดเจน พร้อมสโลแกน Now, It's Clear
ส่วนที่ด้านข้างกล่องพิมพ์โลโก OPPO ด้วยสีทองเงาตัดกับสีแดงบนกล่องอย่างลงตัว
ที่ด้านหลังมีการบ่งบอกถึงคุณสมบัติเด่นของ OPPO R9s Special Red Edition ไม่ว่าจะเป็น กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเลือกใช้เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX398, ระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB พร้อมหน่วยความจำ ROM ความจุ 64GB และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ Flash Touch Access
เปิดกล่องออกมาจะพบกับ OPPO R9s Special Red Edition ถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ โดยที่หน้าจอจะได้รับการติดตั้งฟิล์มกันรอยมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องไปหาฟิล์มกันรอยติดเองในภายหลังแต่อย่างใด
อุปกรณ์เสริมให้ภายในกล่อง ถูกดีไซน์ให้อยู่โทนสีขาวซึ่งรับกับสีตัวเครื่อง OPPO R9s Special Red Edition ซึ่งเป็นสีแดงสดเป็นอย่างดี โดยอุปกรณ์ที่แถมมาให้ ประกอบด้วย Adapter สำหรับชาร์จไฟ, สาย microUSB สำหรับชาร์จไฟ และโอนถ่ายข้อมูล, หูฟัง, เข็มจิ้มซิม, คู่มือการใช้งาน และเคสใส
สำหรับ Adapter ของ OPPO R9s Special Red Edition มีการประทับตรา VOOC ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รองรับฟีเจอร์การชาร์จเร็วแบบ VOOC Flash Charge ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทางค่าย OPPO พัฒนาขึ้นมานั่นเอง
ส่วนสาย microUSB รองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge เช่นเดียวกัน
ด้านหูฟังที่แถมมาให้เป็นแบบ Earbud
ดีไซน์ และการออกแบบภายนอก
OPPO R9s Special Red Edition มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาดจอกว้าง 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) ซึ่งถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และช่วยป้องกันความเสียหายจากการตกกระแทก โดยกรอบหน้าจอของ OPPO R9s Special Edition เลือกใช้สีดำเข้มตัดกับบอดี้สีแดงด้านหลังอย่างลงตัว
ที่ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย กล้องดิจิทัลสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0, ลำโพงสำหรับสนทา, เซ็นเซอร์ Ambient Light และเซ็นเซอร์ Proximity
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วย ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส Capacitive และปุ่มโฮมแบบ Solid-State ที่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้ แม้ว่านิ้วมือของผู้ใช้จะเปียกน้ำ
อีกหนึ่งจุดเด่นของปุ่มโฮมแบบ Solid-State ที่ติดตั้งบน OPPO R9s Special Red Edition คือผู้ใช้สามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้อย่างง่ายๆ ในขณะที่หน้าจอดับอยู่ เพียงแค่วางนิ้วมือเบาๆ ลงบนปุ่มโฮมเท่านั้น
บอดี้ของ OPPO R9s Special Red Edition ผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะถึง 98.8% ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 6.58 มม. พร้อมประทับสัญลักษณ์ OPPO สีเงินไว้ด้านบน ซึ่งเมื่อโดนแสงจะสะท้อนเป็นสีทองเงางาม โดยที่ด้านบนและด้านล่าง จะพาดขวางด้วยเส้นเสารับสัญญาณ Ultra-fine Six-String ซึ่งมาพร้อมกับจุดเด่นด้านความบางเฉียบเพียง 0.3 มม. และยังช่วยให้ OPPO R9s Special Red Edition สามารถรับสัญญาณ 4G หรือ Wi-Fi ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวน
ส่วนที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเสียงติดตั้งเอาไว้
ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง, รูสำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด และถาดใส่ซิมการ์ดของตัวเครื่อง
สำหรับถาดใส่ซิมการ์ดของ OPPO R9s Special Red Edition มาพร้อมกับสีแดงเช่นเดียวกับตัวเครื่อง โดยเป็นถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid-Slot ซึ่งรองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ Nano-SIM เหมือนกันทั้งสองช่อง และใช้เป็นช่องใส่หน่วยความจำ microSD Card ด้วย แต่ไม่สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ดไปพร้อมๆ กับเพิ่มหน่วยความจำเสริม microSD Card ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
ที่ด้านบนประกอบด้วย กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.7 พร้อมเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ Dual PDAF และไฟแฟลชแบบ LED
สรุปสเปก OPPO R9s Special Red Edition
- ตัวเครื่องมีขนาด 153 x 74.3 x 6.58 มม. น้ำหนักรวม 147 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.0GHz
- หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB
- หน่วยความจำภายในความจุ 64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ความจุสุงสุด 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3" รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมโหมด HDR และ Buatify 4.0 สำหรับปรับหน้าสวย
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX398 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8" รูรับแสงกว้าง f/1.7 พร้อมเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ Dual PDAF รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านล่างแบบ Solid-State
- รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano-SIM Cards)
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
- แบตเตอรี่ความจุ 3010mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย ColorOS 3.0
บทสรุปการทดสอบใช้งานเบื้องต้น
โดยรวมแล้ว OPPO R9s Special Red Edition ยังคงมาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นเหมือนกับ OPPO R9s รุ่นปกติทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผล Full HD กว้าง 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 ซึ่งมีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB, หน่วยความจำภายในความจุ 64GB, กล้องดิจิทัลความละเอียดเท่ากันที่ 16 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หรือการรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด พร้อมทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ครอบทับด้วย ColorOS 3.0 ตั้งแต่แกะกล่อง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพ และการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี พร้อมกับความสดใหม่ของตัวเครื่องสีแดงสะดุดตา
ติดตามข่าวสาร
เช็คราคามือถือวันนี้: http://iconnect-review.blogspot.com/2016/08/260859_67.html
Facebook: https://www.facebook.com/iconnectlife/
IG: https://www.instagram.com/iconnectlife
Twitter: https://twitter.com/iconnectlifes
G+: https://plus.google.com/+iconnectlife
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC74zk-qH8L7Va49erIcnuiA
สอบถามเช็คราคามือถือทุกแบรนด์ดัง
1.ฝ่ายขาย Line ID : ICONNECTION
2.ฝ่ายขาย แอดไลน์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 096-683-9184
เช็คราคามือถือวันนี้: http://iconnect-review.blogspot.com/2016/08/260859_67.html
Facebook: https://www.facebook.com/iconnectlife/
IG: https://www.instagram.com/iconnectlife
Twitter: https://twitter.com/iconnectlifes
G+: https://plus.google.com/+iconnectlife
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC74zk-qH8L7Va49erIcnuiA
สอบถามเช็คราคามือถือทุกแบรนด์ดัง
1.ฝ่ายขาย Line ID : ICONNECTION
2.ฝ่ายขาย แอดไลน์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์ 096-683-9184
บอกเลยว่าiPhone 7 or 7+ ก็ก๊อปOPPO มาเหมือนกัน เรื่องการตัดรูหูฟัง3.5มม.oppo ก็ทำก่อนiPhoneค่อยทำตาม
ตอบลบบนโลกใบนี้ มีอะไรจริงบ้างวะ คนคิดจริงๆเค้าตายไปนานแล้ว นอกจากจดสิทธิบัติทางความคิด อะไรก้อปได้ โปรโมก่อน มีชัยไปกว่าครึ่ง Fc IPHONE
ลบเหมือนไอโฟน เหมือนๆๆๆๆๆไอโฟน เพราะฉันนอนคลุมโปงกอดไอโฟนไม่เคยออกไปไหน เวลาว่างฉันมักจะสอดส่องเสมอว่าใครทำคล้ายไอโฟนบ้างแล้วก็กัดทันทีเหมือนปลากัดที่เป็นพรีเซนเตอร์ไอโฟน แต่ถ้าสืบแล้วไอโฟนทำหลังฉันจะตอกกลับไปว่า แอปเปิ้ลรวยกว่า ยอดตกแต่กำไลเท่าเดิม มือถือฉันหรู สามารถกันน้ำได้ เอาสอดรูแล้วโทรเข้าให้มันสั่นก็ไม่พัง ไอโฟนทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ
ตอบลบเมิงเมา เป็บซี่ มาหรอ 55+
ลบ