ความรักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นง่าย เกิดขึ้นได้อย่างไม่มีเหตุผล และเพราะความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเราจึงต้องใช้หัวใจตัดสินมากกว่าการใช้สมอง
หลายคนอาจคิดเพียงว่าเมื่อความรักเกิดขึ้นแล้ว ต่อจากนั้นคงไม่มีอะไรมากนักนอกจากใช้หัวใจทำหน้าที่รักอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่รู้ไหมว่าสมองก็มีความสำคัญไม่แพ้กับหัวใจ เราควรแบ่งพื้นที่ให้ความรักได้ผ่านกระบวนการของหัวใจและสมองเสียบ้าง เพราะถ้าหากวันนี้คนรักของเรามีนัดคุยงานกับลูกค้าต่อจนทำให้ต้องกลับบ้านดึก ถ้าหากใช้หัวใจรับฟังและตัดสิน หัวใจอาจจะรับฟังพร้อมกับความหวาดระแวง แอบหวั่นในใจลึกๆ ว่าเขาไปกับใครหรือเปล่า? ใช่ธุระเรื่องงานจริงไหม นั่นเพราะความรักที่มากเกินไปสั่งการให้หัวใจต้องทำงานหนัก เราไม่เคยแวะหาที่นั่งพักให้หัวใจวิ่งเต้นตามคนรักบ้างเลย หยุดพักบ้างดีไหม ถ้าหัวใจต้องมาคอยนั่งคิดกังวลตลอดเวลา ต้องหมั่นโทร.หา ต้องคอยส่งความคิดถึง ส่งความห่วงใยไปให้ จนสุดท้ายการทำงานของหัวใจโดยที่ไร้การควบคุมก็ทำให้ใจเตลิด สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และมานั่งคิดมากน้อยใจคนรักจนต้องมีเรื่องทะเลาะกันในเวลาต่อมา
หลายคนอาจคิดเพียงว่าเมื่อความรักเกิดขึ้นแล้ว ต่อจากนั้นคงไม่มีอะไรมากนักนอกจากใช้หัวใจทำหน้าที่รักอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่รู้ไหมว่าสมองก็มีความสำคัญไม่แพ้กับหัวใจ เราควรแบ่งพื้นที่ให้ความรักได้ผ่านกระบวนการของหัวใจและสมองเสียบ้าง เพราะถ้าหากวันนี้คนรักของเรามีนัดคุยงานกับลูกค้าต่อจนทำให้ต้องกลับบ้านดึก ถ้าหากใช้หัวใจรับฟังและตัดสิน หัวใจอาจจะรับฟังพร้อมกับความหวาดระแวง แอบหวั่นในใจลึกๆ ว่าเขาไปกับใครหรือเปล่า? ใช่ธุระเรื่องงานจริงไหม นั่นเพราะความรักที่มากเกินไปสั่งการให้หัวใจต้องทำงานหนัก เราไม่เคยแวะหาที่นั่งพักให้หัวใจวิ่งเต้นตามคนรักบ้างเลย หยุดพักบ้างดีไหม ถ้าหัวใจต้องมาคอยนั่งคิดกังวลตลอดเวลา ต้องหมั่นโทร.หา ต้องคอยส่งความคิดถึง ส่งความห่วงใยไปให้ จนสุดท้ายการทำงานของหัวใจโดยที่ไร้การควบคุมก็ทำให้ใจเตลิด สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และมานั่งคิดมากน้อยใจคนรักจนต้องมีเรื่องทะเลาะกันในเวลาต่อมา
แต่... ขณะเดียวกัน หากธุระการงานของคนรักนั้น ผ่านการทำงานของกระบวนการไตร่ตรองด้วยสมองไปด้วย สมองของเราจะใช้เหตุผลในการตัดสิน นั่นหมายถึงสมองจะสั่งการควบคุมระงับสติอารมณ์ของเราไม่ให้คิดเลยเถิดนอกกรอบ ให้อยู่แต่ในความพอดี รอคอย... อย่างคิดถึง ห่วงใย ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าหากต้องโทร.หาบ่อยจนเหมือนจิกกันล่ะไม่ไหวแน่ สมองของเราย่อมแบ่งแยกได้ว่าเขา ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และจะบอกให้หัวใจเรารอเขาอย่างมีสติและเหตุผล
ถ้าคนรักของเรานอกใจจริง วันหนึ่งสมองอันชาญฉลาดของเรานี่แหละ ที่จะจับผิดได้ จะจับสังเกตถึงความมีพิรุธที่เกิดขึ้นในตัวเขา ตั้งแต่การคิด การพูดจารวมถึงการกระทำทั้งหมดของคนรัก
เชื่อเถอะว่าคนที่นอกใจกันจริง ต่อให้เล่นบทบาทคนรักอย่างแนบเนียนแค่ไหน หากสุดท้ายก็ย่อมมีช่องโหว่โผล่ให้เราเห็นให้ได้จับผิดอยู่ดี
และช่องโหว่ที่เปิดกว้างออกรอให้เราเห็นนั้น เราไม่ได้พบเห็นได้จากสายตาแต่เพียงเท่านั้น แต่หากเรามองจากส่วนลึกของการทำงานของสมองเราจะพบทุกเหตุผลที่มาที่ไป ทุกการกระทำที่เกิดขึ้นในทั้งเขาทั้งหมด
หัวใจอาจเป็นที่เก็บความทรงจำแสนหวาน จนเผลอลืมในการเก็บรายละเอียดของคนรักไว้ หากขณะเดียวกัน เมื่อเรารักด้วยใจแล้วใช้สมองคิดตามไปด้วย สมองจะเป็นฝ่ายเก็บรายละเอียดตัวคนรักเอาไว้ เป็นเอกสารลับที่ทำให้เรารู้ว่าวันหนึ่งเขามีแววจะนอกใจเราหรือไม่
รักด้วยหัวใจเป็นสิ่งที่ดี แต่จะให้ดีครบถ้วนควรใช้สมองคิดตามด้วยทุกครั้ง ความรักที่หลงงมงายจะไม่เกิดขึ้น ความรักที่ทำให้ใครตาบอดก็ไม่เกิดขึ้น เพราะหากวันหนึ่งที่คนรักปิดตาหัวใจเราจนมืดบอด วันหนึ่งสมอง...จะทำหน้าที่กดสวิทต์ไฟให้ดวงตาเรามองทุกอย่างชัดเจนสว่างใสอีกครั้ง
แล้วทีนี้.... หัวใจก็ได้รู้เสียทีว่า ‘รักแท้’ หรือ ‘แค่หลอกลวง’
เริดคะพี่
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบคุรสำหรับบทความ ดีๆๆ 5555555
ตอบลบขอบคุณค้าาาา ดีต่อใจมักๆๆๆ
ตอบลบหมายถึงใคร? คะ
ตอบลบมี ดราม่า ให้ลุงซองมั้ย เอ้ย++ มาม่า 5555
ตอบลบมีไรกันคาบ ให้ผมเครียมั้ย 5555
ตอบลบ