วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

แนะนำสมาร์ทโฟนเรือธง 6 รุ่นสุดเจ๋ง! ที่มาพร้อมกับสุดยอดหน้าจอ OLED รุ่นไหนจะโดนใจคุณมากที่สุด

     ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีด้านการผลิตจอภาพสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งการให้ความคมชัด ค่าของสีที่ถูกต้อง ฯลฯ โดยเมื่อไม่นานมานี้เรามักจะได้ยินชื่อของจอภาพชนิด LCD และ LED กันอยู่บ่อยครั้ง เพราะถือเป็นจอภาพยอดนิยมในช่วงที่ผ่านมา แต่ ณ ตอนนี้มีจอภาพแบบใหม่ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ นั่นคือ จอภาพ OLED

จอภาพ OLED ดีอย่างไร? มีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นขนาดไหน?

    OLED ย่อมาจาก Organic Light-Emitting Diodes ถือเป็นเทคโนโลยีจอภาพรูปแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาแทนเทคโนโลยีจอภาพแบบ LCD โดยจอภาพ OLED จะมีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์ม โปร่งแสง สามารถโค้งงอได้ และสามารถมองทะลุได้ จุดเด่นของจอภาพ OLED นี้อยู่ที่การผลิตแสงได้เอง เรียกว่ากระบวนการอิเล็คโทรลูมิเนเซนส์ (Electroluminescence) ซึ่งแตกต่างกับจอภาพประเภท LCD เพราะจอภาพประเภทนี้ต้องใช้แสง Backlight ฉายด้านหลังจอภาพจึงจะเกิดแสง แต่จอภาพ OLED สามารถผลิตแสงได้เอง จึงช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนลงไปได้มาก หากบริเวณใดมีภาพสีดำ จอภาพ OLED ก็จะไม่ผลิตแสงออกมา ส่งผลให้สีดำนั้นดำสนิท และเป็นการประหยัดพลังงานทางหนึ่งด้วย


     เทคโนโลยีจอภาพ OLED ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยกันสองชนิด ได้แก่ Passive Matrix (PMOLED) และ Active Matrix (AMOLED)

     1. Passive Matrix (PMOLED) มีราคาค่อนข้างถูก สามารถผลิตได้ง่าย แต่มีข้อด้อยคือการตอบสนองที่ช้า รองรับความละเอียดได้ไม่มาก และใช้พลังงานสูง โดยมากแล้วจอภาพชนิดนี้มักถูกนำมาใช้กับกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก และไม่ต้องการความละเอียดสูงมาก เช่น วิทยุ รีโมทคอนโทรล เป็นต้น

     2. Active Matrix (AMOLED) มีราคาแพง ผลิตได้ยาก ตอบสนองได้รวดเร็ว รองรับความละเอียดในระดับสูง และประหยัดพลังงาน จอภาพชนิดนี้ถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการความละเอียดสูง และความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สามารถนำมาปรับใช้ได้หลายขนาดทั้งโทรศัพท์มือถือและโทรทัศน์ โดยในปัจจุบัน บรรดาผู้ผลิตเริ่มหันมาใช้จอภาพชนิดนี้กันหมดแล้ว

     ด้วยคุณสมบัติข้างต้นเหล่านี้ ทำให้จอภาพ OLED กลายเป็นจอภาพที่บางกว่า เบากว่า ชัดกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่า ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายแห่งจึงนำเทคโนโลยีนี้มาปรับใช้กับสินค้าของตน เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และจอภาพที่ค่อนข้างจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรานั่นก็คือ"จอภาพโทรศัพท์มือถือ" วันนี้ทางทีมงาน thaimobilecenter เลยถือโอกาสพาทุกท่านไปชมกันว่า สมาร์ทโฟนเรือธง 6 รุ่นสุดเจ๋ง! ที่มาพร้อมกับสุดยอดหน้าจอ OLED นั้นคือรุ่นไหน แบรนด์ใดบ้าง หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ (*หมายเหตุ - ลำดับในการนำเสนอมิได้เป็นการจัดอันดับแต่อย่างใด)

Motorola Nexus 6

     สมาร์ทโฟน Pure Android (Pure Google) อย่าง Nexus 6 จากค่าย Motorola ถือเป็นลำดับที่ 3 ในหมู่พี่น้อง Nexus ที่ใช้จอภาพแบบ OLED หลังจากที่ Samsung ได้ผลิต Nexus S และ Galaxy Nexus ออกมาก่อนหน้า

     แน่นอนว่าสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดอย่างหนึ่งของ Nexus 6 คือจอภาพ AMOLED ที่มีขนาดถึง 5.96 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1,440x2,560 พิกเซล และความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลมากถึง 493 ppi นอกจากเรื่องของจอภาพที่สุดยอดแล้ว Nexus 6 ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 805, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32 GB หรือ 64GB และแบตเตอรี่ขนาด 3,220 mAh ในส่วนของกล้องถ่ายภาพก็มาพร้อมกับกล้องด้านหลังที่มีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

LG G Flex 2

     มือถือในลิสต์นี้ทั้งหมดจะมาพร้อมกับจอภาพแบบ AMOLED แต่ว่า LG G Flex 2 จะมีนวัตกรรมซึ่งเป็นจุดขายที่ไม่เหมือนรุ่นใด คือ หน้าจอของ LG รุ่นนี้จะมีความโค้งงอ ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้ผลิตไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่อย่างใด โดยจอโค้งนี้มาพร้อมกับขนาดหน้าจอที่ 5.5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1,080x1,920 พิกเซล และความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลถึง 401 ppi

     ระบบประมวลผลใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 810 (อันที่จริงแล้ว LG G Flex 2 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่หันมาใช้ Snapdragon 810) LG จำหน่าย G Flex 2 ในสองเวอร์ชัน คือ รุ่น RAM 2 GB หน่วยความจำภายใน 16GB และ รุ่น RAM 3 GB หน่วยความจำภายใน 32 GB ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ สเปคอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ 3,000 mAh, กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล และฝาหลังที่ซ่อมแซมรอยขีดข่วนด้วยตัวเองได้

Motorola Moto Maxx

     ถ้าคุณกำลังมองหามือถือแบรนด์ Motorola ที่มาพร้อมกับจอภาพแบบ AMOLED Motorola Moto Maxx รุ่นนี้จะทำให้คุณสมหวังอย่างแน่นอน ด้วยขนาดจอภาพ 5.2 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1,440x2,560 พิกเซล และให้ความคมชัดด้วยความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลสูงถึง 565 ppi
     ระบบประมวลผลภายในทำงานด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 805 (2.7 GHz Quad-Core Krait 450 CPU, Adreno 420 GPU) เข้าคู่ด้วย RAM 3 GB และ หน่วยความจำภายใน 64 GB สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป Moto Maxx จัดความละเอียดของกล้องด้านหลังมาให้ถึง 21 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พ่วงท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 3,900 mAh

Nokia Lumia 930

     ใครบอกว่าจอภาพ OLED มักจะมีแค่ในมือถือ Android เป็นหลัก คงต้องทำความเข้าใจกันเสียใหม่ เพราะแม้แต่ Windows Phone เรือธงอย่าง Nokia Lumia 930 ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีจอภาพนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1,080x1,920 พิกเซล และความหนาแน่นของเม็ดพิกเซล 441 ppi

     ระบบประมวลผลภายในทำงานโดยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 800 (2.2GHz Quad-Core Krait 400 CPU, Adreno 330 GPU) ทำงานร่วมกับ RAM 3 GB, กล้องด้านหลังความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ขนาด 2,420 mAh

Meizu MX5

     Meizu ถือเป็นแบรนด์มือถือที่กำลังเดินเกมรุกตีตลาดทั้งทางฝั่งประเทศจีน และประเทศแถบตะวันตก อย่างเอาจริงเอาจัง โดยมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง MX5 ก็มาพร้อมกับบอดี้โลหะทั้งตัว หน้าจอความละเอียดสูง ความรวดเร็วในการประมวลผล และลูกเล่นของฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพ

     Meizu MX5 มาพร้อมกับจอภาพ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1,080x1,920 พิกเซล ความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 401 ppi ส่วนระบบประมวลผลนั้นใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio X10 (Octa-Core 2.2GHz Cortex-A53, PowerVR G6200 GPU) พร้อมด้วย RAM 3GB, กล้องหลังก็ชัดหายห่วงเพราะมากับความละเอียดที่สูงถึง 20.7 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยระบบ Laser Autofocus และมีกล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge
     ไม่พูดถึงรุ่นนี้คงไม่ได้ สำหรับมือถือเรือธงรุ่นยอดนิยมอย่าง Samsung Galaxy S6 และ Samsung Galaxy S6 edge โดยทาง Samsung ปล่อยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาเพื่อหวังแก้ตัวจาก Samsung Galaxy S5 ที่ทำยอดขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจุดเด่นของหน้าจอ Galaxy S6 กับ Galaxy S6 edge นี้ ทาง Samsung ได้พัฒนาเทคโนโลยีจอภาพขึ้นมาอีกระดับ เรียกว่าจอภาพ Super AMOLED ที่ให้ความคมชัดสูงถึงระดับ 2K QHD โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 5.1 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอที่ 2,560x1,440 พิกเซล และความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ระดับ 577 ppi
 
     ระบบประมวลผลนั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7420 (Quad-Core Cortex-A57 2.1 GHz CPU และ Quad-Core Cortex-A53 1.5 GHz) จับคู่กับ RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, 64GB และ 128GB, กล้องด้านหลังความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล พ่วงด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหว OISและฟีเจอร์ต่างๆ ในการถ่ายภาพ ส่วนกล้องด้านหน้าก็จัดความละเอียดมาให้ถึง 5 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสมรรถนะของตัวกล้องแล้ว ยังแสดงภาพด้วยจอภาพที่มีความคมชัดระดับสูง ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามไม่แพ้กล้องโปรเลยทีเดียว
 
     เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ สมาร์ทโฟนเรือธง 6 รุ่นสุดเจ๋ง! ที่มาพร้อมกับสุดยอดหน้าจอ OLED ที่ทีมงานของเราแวะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน หวังว่าบทความนี้คงเป็นตัวช่วยที่ทำให้ท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบความคมชัดของจอภาพตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น แต่อย่าลืมนะครับว่าการที่จะรู้ว่ามือถือเครื่องนี้เหมาะกับเราหรือไม่ การได้ไปสัมผัสของจริงเป็นการดีที่สุด แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง

News update