สว้สดีครับ พี่ๆน้องๆ พบกับการ รีวิวสินค้าล่าสุดวันนี้ iPad mini 3 ส่งตรงมาจากเว็บไซต์ Apple โดยทีมงานเว็บไซต์ บอยบีบีโฟนดอทคอม เป็นผู้เรียบเรียง ล่าสุดทาง Apple นั้นได้มีการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ อย่าง iPad mini 3 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามพี่ใหญ่อย่าง iPad Air 2 มาติดๆกับแท๊บเล็ตน้องเล็กที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iPad mini 3 ที่มาพร้อมลูกเล่นเด็ดๆอย่างเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ Touch ID และยังคงจุดแข็งเดิมอย่างเรื่องของความสะดวกในการพกพาด้วยขนาดกะทัดรัดพอดีมือนั่นเอง
คราวนี้มาดูกันว่า ความสามารถ ของตัวเครื่องจะทำได้ดีแค่ไหน แบตตารี อึดทนนานแค่ไหน และควรแก่การตัดสินใจ รึป่าวครับ
หน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 2,048 x 1,536 พิกเซล (326 PPI) – ความละเอียดเท่ากันกับ iPad mini 2
หน่วยประมวล Apple A7 รองรับเทคโนโลยี 64 บิต และหน่วยประมวลผลด้านกราฟฟิก M7 Motion Co-Processor – ตัวเดียวกันกับใน iPad mini 2
ปุ่ม Home มาพร้อมเซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ Touch ID
กล้องด้านหลัง iSight ความละเอียด 5.0 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p และกล้องด้านหน้า Facetime HD Camera 1.2 ล้านพิกเซล 720p
แบตเตอรีสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 10 ชั่วโมง
มาพร้อมกับ iOS 8
ขนาดตัวเครื่อง 134.7 x 200 มิลลิเมตร ซึ่งมีความกว้างยาวเท่ากับ iPad mini 2
ความหนาของตัวเครื่องเพียง 7.5 มิลลิเมตร เท่ากันกับ iPad mini 2
น้ำหนักของตัวเครื่อง 331 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi only และ 341 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ซึ่งเท่ากันกับ iPad mini 2
มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Space Grey , Silver และ Gold
เป็นยังไงกันบ้างครับ เห็นสเปคของ iPad mini 3 กันไปแล้ว คราวนี้มาดูกันต่อที่เรื่องของราคาค่าตัวกันนะครับ ว่าน่าจับจองมากน้อยแค่ไหน
รุ่น Wi-Fi only
ความจุ 16 GB ราคา $399
ความจุ 64 GB ราคา $499
ความจุ 128 GB ราคา $599
รุ่นWi-Fi + Cellular
ความจุ 16 GB ราคา $529
ความจุ 64 GB ราคา $629
ความจุ 128 GB ราคา $729
สำหรับรายชื่อประเทศที่จะได้วางจำหน่าย iPad mini 3 ก่อนใครทั้ง 29 ประเทศ มีดังนี้ (ไม่มีประเทศไทยนะครับ)
Australia, Austria, Belgium, Bulgaria, Canada, China (เฉพาะรุ่น Wi-Fi only), Czech Republic, Denmark, Finland, France, Germany, Hong Kong, Iceland, Ireland, Italy, Japan, Liechtenstein, Luxembourg, Macau (เฉพาะรุ่น Wi-Fi only), Netherlands, New Zealand, Norway, Poland, Portugal, Romania, Singapore, Slovakia, Spain, Sweden, Switzerland, the UK and US
ส่วนเรื่องวันและเวลาทาง Apple ได้เปิดให้เหล่าสาวก Pre-order เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง