Qualcomm ได้ออกมาให้ข่าวอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับชิปประมวลผล 64-bit สำหรับอุปกรณ์พกพาที่จะมีการนำไปใช้งานจริงในปีหน้า โดยชิปรุ่น Snapdragon 810 ถูกขนานนามว่าเป็น “Snapdragon รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา” แรงสุดด้วย CPU แบบ Octa-Core (8 แกนประมวลผล) โดยใช้การทำงานประสานกันระหว่างชิป Quad-Core ARM Cortex-A57 และชิป Quad-Core ARM Cortex-A53 นอกจากยังมีการแย้มถึงคุณสมบัติที่น่าสนใจของเจ้า Snapdragon 810 อาทิ เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอ โดยรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ HDR (High Dynamic Range เก็บช่วงแสงได้กว้าง), รองรับฟีเจอร์การแก้ปัญหาภาพสั่นไหวแบบ Gyro-Stabilization,รองรับเซ็นเซอร์ภาพความละเอียดสูงถึง 55 ล้านพิกเซล และรองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 4K
ชิปกราฟิก Adreno 430 ที่อยู่ใน Snapdragon 810 รองรับจอภาพของอุปกรณ์พกพายุคใหม่ที่มีความละเอียดสูงได้เป็นอย่างดี (รองรับจอภาพที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ Ultra HD 3,840x2,160 พิกเซล) แถมยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 30%เมื่อเทียบกับ Adreno 420 และลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 20% อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ Snapdragon 810 ยังช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลผ่าน Wi-Fi และ 4G LTE ทำได้รวดเร็วขึ้น และรองรับ USB 3.0, NFC, บลูทูธ 4.1 และรองรับการทำงานกับ RAM รูปแบบใหม่อย่าง LPDDR4 ซึ่ง RAM รูปแบบใหม่นี้เป็นคีย์หลักที่ช่วยให้ชิปประมวลผล 64-bitแสดงประสิทธิภาพของมันได้อย่างเต็มที่
สำหรับน้องรองในตระกูลชิป 64-bit ที่จะถูกนำไปใส่ในสมาร์ทดีไวซ์ที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า คือ Snapdragon 808 ที่เลือกใช้ CPU แบบ Hexa-Core (6 แกนประมวลผล) ที่เป็นการทำงานประสานกันระหว่าง Dual-Core ARM Cortex-A57 และชิป Quad-Core ARM Cortex-A53 โดยมีการอัพเกรดประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลผ่านWi-Fi และ 4G LTE รวมถึงรองรับเซ็นเซอร์กล้องขนาด 55 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับชิปรุ่นพี่ แต่มีความแตกต่างกันตรงที่รองรับเพียงการทำงานกับ RAM แบบ LPDDR3 และใช้ชิปกราฟิก Adreno 418 ที่ประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิกต่ำกว่า Adreno 430 ที่อยู่ใน Snapdragon 810 แต่ก็ยังคงรองรับจอภาพที่มีความละเอียดสูงถึงระดับUltra HD เช่นเดียวกัน
ใครอยากสัมผัสความแรงจากชิป 64-bit เตรียมเก็บเงินเอาไว้ให้ดี แล้วเจอกันปีหน้า
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น
* แนะนำ ดูเวอร์ชันสำหรับเว็บ คลิกด้านล่าง